ข่าวทั่วไทย

Just another WordPress site

ข่าวทั่วไทย

Just another WordPress site

ข่าวทัวไป

แฉ 2-3 แสนค่าหัวสั่งตายแกนนำชาวบ้านต้านรุกป่าบางขันชาวบางขัน-เปิดคลิปแฉรถบรรทุกไม้ซุงยักษ์เย้ยกฎหมายหน้าป้อมตำรวจกลางตลาดนัด

(17 มี.ค.) ชาวบ้าน ในพื้นที่ตำบลลำนาวอำเภอบางขันจังหวัดนครศรีธรรมราช ยังทยอยส่งข้อมูล เกี่ยว กับ ขบวน การ บุก รุก ตัด ไม้ ทำลาย ป่า และ ยึด พื้น ที่ ป่า สวน ตำบล บ้าน ลำนาว อำเภอบางขัน มา ให้กับสื่อมวลชน อย่างต่อเนื่องและวิงวอนขอร้องให้สื่อมวลชนช่วยติดตามนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเกรงว่าหากกล่าวเงียบหายไป โคตรจะมีการวิ่งเต้นเครือยุติคดีจนเรื่องเงียบหายไปไม่มีใครถูกดำเนินคดีและพื้นที่บุกรุก ก็จะตกเป็นของนายทุนหรือผู้นำท้องที่ ท้องถิ่นทำการปลูกปาล์ม ยางพาราหรือทุเรียนเต็มพื้นที่เหมือนหลายแปลงที่ผ่าน ๆ มา
ชาวบ้านในพื้นที่คนหนึ่งกล่าวว่า ในขณะนี้บรรยากาศในพื้นที่ ตำบลบ้านลำนาว โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่ 4 หมู่ 5 และหมู่ 11 ชาวบ้านยังจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ ถึงขั้นมีการพนันขันโตกันว่า คดีนี้ จะยุติลงอย่างไรจะมีใคร ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายหรือไม่ทางราชการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเดินหน้าหรือยุติ คดีเงียบหายไปเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาและส่วนใหญ่ยังเชื่อว่า ทางราชการจะไม่ เอาจริงเอาจัง กับเรื่องนี้และคงเรื่องจากยุติเงียบหายไปเหมือนทุกครั้ง ชาวบ้านไม่เชื่อใจไม่มั่นใจภาครัฐ เพราะ กันตรวจสอบจับกุม เกิดขึ้นหลายครั้ง แต่เพิ่งมามีการ เข้าไปปักป้าย ตรวจยึดพื้นที่ อย่างเป็นทางการแค่แปลงเดียวแปลงสุดท้ายเนื้อที่ 173 ไร่เศษ แต่แป้งก่อนหน้านี้โดยเฉพาะแปลง95 ไร่ ซึ่งทราบว่าเป็นของ พ่อผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลบ้านลำนาว มีการเข้าไปตรวจสอบจับกุมและตรวจยึด ตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2567 กลับไม่มีการ ปักป้ายสวดยึด และปล่อยให้มีการปลูกปาล์มน้ำมันเต็มพื้นที่ไปเรียบร้อยแล้ว
“แม้ในพื้นที่จะมีความพยายามรวมตัวตั้งกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมต่อต้านการ ตัดไม้ทำลายป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำที่สำคัญ ของอำเภอบางขัน แต่ยังไม่มีใครกล้าเปิดตัวออกมาเคลื่อนไหวอย่างจริงจัง เพราะต่างเกรงกลัวอิทธิพล โดยมีการข่มขู่ปองร้ายถึงชีวิตมีประกาศการตั้งค่าหัวจัดการกับชาวบ้าน 2-3 แสนที่ต้องสงสัยว่าเป็นคนให้ข้อมูลกับนักข่าวเปิดโปงขบวนการรุกป่าในตำบลบ้านลำนาว อ.บางขัน หากทางราชการโดยเฉพาะผู้ว่าราชการ จังหวัด นครศรีธรรมราช และนายอำเภอบางขัน ออกมาชี้แจงยืนยันที่จะดำเนินการอย่างจริงจังทั้งทางวินัยและอาญาจะทำให้ชาวบ้านมั่นใจและกล้าออกมาเปิดเผยตัวตนร่วมขับเคลื่อนต่อต้าน กระบวนการทำลายป่าสวนแห่งชาติ”
ชาวบ้านคนดังกล่าวยังได้ส่งภาพและคลิปวีดีโอในขณะที่มีการลำเลียงไม้ถุงขนาดยักษ์ใหญ่ วินยกขึ้นรถบรรทุก เคลื่อนย้ายไปเข้าโรงเลื่อย โดยระบุว่าเป็นเหตุการณ์ก่อนเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจับกุมแปลง 95 ไร่ เมื่อปลายเดือนธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา สำหรับจุดการวินยกไม้ซุงยักษ์ที่มีการลักลอบตัดโค่นจากพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติบ้านน้ำนิ่งเป็น บริเวณหน้าป้อมยามตำรวจกลางตลาดนัด ในพื้นที่หมู่ 4 ตำบลบ้านลำนาว ซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ถึงกระบวนการทำลายทรัพยากรป่าไม้ที่มีอยู่จริงในพื้นที่อำเภอบางขัน จึงอยากให้ ตรวจสอบข้อเท็จจริงดำเนินการอย่างจริงจังตรงไปตรงมา


ทางด้านนายเอกวิทย์ วิทยา แกนนำชาวบ้านกล่าวว่าตนยอมรับว่าเป็นผู้โพสต์ภาพและข้อความทาง facebook เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมาจนเป็นจุดเริ่มต้นของการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนในวงกว้าง พวกนี้เข้ามาสร้างความฉิบหายให้กับหมู่บ้านของเราและพวกมันยังลอยนวลอยู่ ซึ่งรายอมไม่ได้ และตนก็ยอมรับว่าภาพและคลิปการวินยกไม้ซุงยักษ์ทำกันอย่างเปิดเผยหน้าป้อมยามในตลาดนัดของผมเอง แต่ไม่ทราบว่าใครแอบถ่ายส่งให้สื่อมวลชน และทราบว่ามีการพูดถึงการค่าหัวฆ่าปิดปากผู้ที่ออกมาต่อต้านและให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนหัวละ 2-3 แสนบาท โดยในส่วนของตนมีการพูดสั่งผ่านมาทางบุตรสาวของตน แต่ตนไม่ได้หวั่นไหว ตนไม่กลัวซึ่งหากต้องมาตายก็ไม่เป็นไรอย่างน้อย ๆ ผมก็ได้มีส่วนร่วมในการปกป้องป่าเอาไว้ให้ลูกหลาน และเราเป้าหมายให้นายสมเกียรติ รัตนบุรี กำนันตำบลบ้านลำนาว เป็นประธานกลุ่มหรือชมรมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติโดยเฉพาะป่าไม้ต่อไป
นายสมชาย ลีหล้าน้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า เรื่องการ บุกรุก ตัดไม้ทำลายป่างบพื้นที่ป่าสู่กันแห่งชาติในพื้นที่อำเภอบางขัน ผมได้ สั่งกำชับไปยังทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้ปฏิบัติ หน้าที่อย่างตรงไปตรงมาตามระเบียบกฎหมายที่กำหนด เพราะพื้นที่ป่าเป็นของพี่น้องประชาชนทุกคน ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนร่วมกันกับเพื่อนตามบริบทในอำนาจหน้าที่โดยเฉพาะนายอำเภอบางขันและหน่วยงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
ต่อข้อถามที่ว่าในส่วนของชาวบ้านในพื้นที่ไม่มั่นใจไม่เชื่อใจว่าทางราชการจะเอาจริงเอาจังนั้น นายสมชาย กล่าวว่าในเรื่องนี้ตนในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัด จะต้องร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการนายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ กำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ตนได้มีการกำชับสั่งการและออกหนังสือให้ทุกภาคส่วนดำเนินการตามหลักเกณฑ์ แม้ในการประชุมหัวหน้าส่วนประจำจังหวัดตนก็สั่งกำขับในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการบริหารจัดการ คงไม่เฉพาะแค่ภารกิจที่ได้รับมอบหมายเท่านั้นแต่เราจะต้องบริหารจัดการบนพื้นฐานความรู้สึกของพี่น้องประชาชนด้วย นายสมชาย ลีหล้าน้อย กล่าวย้ำ


ไพฑูรย์ อินทศิลา /นครศรีธรรมราช
17 มี.ค.2568

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *