มอบตัวแล้ว 4 ผู้ต้องหาลอตแรกรุกฮุบป่า”บ้านน้ำนิ่ง”บางขัน-จับตาหมายจับลอตที่ 2 คาดอีก4-5คนมี ผญบ.คนดังรวมอยู่ด้วย
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจับกุมการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าหน้าไซ-ป่านาปู “บ้านน้ำนิ่ง” หมู่ 5 ต.ลำนาว อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช พบพื้นที่ป่าถูกบุกรุกแผ้วถางตัดโค่นไม้ขนาดใหญ่ รวมเนื้อที่ 174 ไร่ และมีการปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่แล้ว 623 ต้น เจ้าหน้าที่ยึดไม้ขนาดยักษ์ใหญ่จำนวน 81 ท่อน มูลค่าเกือบ 2 ล้านบาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.นครศรีธรรมราช ป.ป.ช.ภาค 8 ลงพื้นที่ ปักป้ายตรวจยึดพื้นที่ที่ถูกบุกรุก และสอบสวนปากคำผู้นำท้องถิ่นคนหนึ่งซึ่งเป็นตัวการสำคัญดำเนินคดีตามกฎหมาย ในขณะที่ป่าไม้ที่ 12 นครศรีธรรมราชมีคำสั่งย้ายหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นศ.5 (บางขัน) และตั้งคณะกรรมสอบสวนข้อเท็จจริง และล่าสุดพนักงานสอบสวน สภ.บางขัน นำเสนอศาลจังหวัดทุ่งสงอนุมัติหมายจับ 4 ผู้ต้องหาลอตแรกเมื่อวันที่ 22 มี.ค.ผ่านมา โดยมีข่าวว่าผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ได้หลบหนีไปตั้งหลักเพื่อเตรียมเตรียมเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.บางขัน ในเร็ว ๆ นี้ ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

(27 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่า ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนได้ติดต่อ พ.ต.อ.จักรกฤช แต้วัฒนา ผกก.สภ.บางขัน เพื่อเข้ามอบตัวสู้คดี พ.ต.อ.จักรกฤช จึงมอบหมายให้ พ.ต.ท.สวัสดิ์ นิยมเดชา รอง.ผกก. สืบสวน.สภ. บางขัน และ พ.ต.ท.เสถียร สงพราหมณ์ สว.(สอบสวน) หัวหน้างานคดี สภ.บางขัน รอรับมอบตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ตามหมายจับลขี่ 134/2568-137/2568 ซึ่งผู้ต้องหาประกอบด้วย 1.นายเจนวิทย์ รองนายก อบต.แห่งหนึ่งใน อ.บางขัน 2.นายปรีชา คนขับรถแบ็กโฮ 3.นายจีระศักดิ์ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และ 4.เสี่ยวัฒน์ ผู้ว่าฯจ้างรถแบ็กโฮ ไถปรับพื้นที่ของตัวเอง 10 ไร่ไม่เกี่ยวข้องกับพื้นที่อีก 163 ไร่เศษที่ถูกจับกุมตรวจยึดรวมทั้งพื้นที่แปลงอื่น ๆที่เคยถูกจับกุมก่อนหน้านี้
ซึ่งเมื่อผู้ต้องหาทั้ง 4 คน เดินทางมาถึงทาง พ.ต.ท.สวัสดิ์ นิยมเดชา ได้อ่านหมายศาลแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาเดียวกันทั้ง 4 คน โดยต้องหาว่ากระทำความผิดฐานทำไม้หวงห้าม ก่อสร้าง แผ้วถางเผาป่าหรือกระทำด้วยประการใดอันเป็นการทำลายป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตเนื้อที่เกิน 25 ไร่ ,มีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองเกิน 20 ท่อนโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดินหรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพผ่าศพแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต
หลังจากผู้ต้องหา เดินทางมาถึงซึ่งในส่วนของรองนายก อบต.มีนายก อบต.เดินทางมาให้กำลังใจด้วย หลังจากนั้น พ.ต.ท.สวัสดิ์ นิยมเดชา ได้นำผู้ต้องหาทั้ง 4 คนส่งมอบ พ.ต.ท.เสถียร สงพราหมณ์ สว.(สอบสวน) สภ.บางขัน สอบสวนดำเนินการตามดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายคาดว่าจะต้องใช้ เวลาในการสอบสวน 4 พรุ่งหงา ยาว 4-5 ชั่วโมง และในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การภาคเสธและจะขอประกันตัวเพื่อสู้ดีในขั้นศาลต่อไปซึ่งการสอบสวน จนถึงเวลา 17.00 น ยังไม่เสร็จสิ้นและตำรวจยังไม่อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหา ทั้ง 4 คน
ในขณะที่เสี่ยวัฒน์ 1ในผู้ต้องหาให้การยืนยันว่าไม่ได้ร่วมอยู่ในขบวนการการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าและฮุบป่าสงวนแห่งชาติตามที่เป็นข่าวอย่างใด เพราะตนไม่ได้รู้จักกับ 3 ผู้ต้องหาและเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับขบวนการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าแต่อย่างใด ซึ่งตนอยู่ในสถานะคนที่ตกกระไดพลอยโจรไปด้วย เพราะจริง ๆ แล้วตนได้รับมอบที่ดินจำนวน 10 ไร่มาจากคนเฒ่าคนแก่ที่ครอบครองทำกินในที่ดินดังกล่าวมายาวนานหลายปีแล้ว โดยที่ตนไม่ทราบว่าพื้นที่ 10 ไร่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จนเมื่อต้นทราบว่ามีการใช้รถแบ็กโฮขึ้นไปปรับพื้นที่ในแปลงข้างเคียง ตนเห็นเป็นโอกาสดีที่จะได้ปรับพื้นที่ของตนไปด้วยเนื่องจากหารถแบ็กโฮที่จะขึ้นไปปรับพื้นที่ค่อนข้างยาก จึงตัดสินใจเข้าไปติดต่อว่าจ้างรถแบ็กโฮคันดังกล่าวให้ช่วยปรับพื้นที่ให้ตนด้วย โดยมีการทำสัญญาว่าจ้างกันอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรในอัตราค่าจ้างเป็นค่าน้ำมันถังละ 18,000 บาท

“เมื่อมีการเข้าไปตรวจสอบจับกุมพื้นที่รวม 173 ไร่เขตในจำนวนนั้นมีพื้นที่ตนรวมอยู่ด้วย 10 ไร่ ทำให้ตนพลอยโดนหางเลขไปด้วยเพราะเอกสารสัญญาจ้างรถแบ็กโฮจึงกลายมาเป็นหลักฐานสำคัญในการเสนอออกหมายจับตนเป็น 1 ใน 4 ผู้ต้องหาลังถูกออกหมายจับตนตกใจมากและไม่ได้หลบหนีตามที่เป็นข่าวแต่อยู่ระหว่างการปรึกษาหารือกับพรรคพวกเพื่อนฝูงเพื่อเข้ามอบตัวสู้คดี “
“เสี่ยวัฒน์” กล่าวอีกว่าตนให้การรับสารภาพว่าได้ว่าจ้างรถแบ็กโฮปรับพื้นที่ 10 ไร่จริง ส่วนที่เหลืออีก163 ไร่เศษ ตนไม่รู้และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องว่าใครเป็นคนว่าจ้าง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคงต้องสอบสวนสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเอาเองว่าใครเป็นผู้ว่าจ้างในส่วนของ 163 ไร่เศษ”
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ระดมกำลังสอบสวนสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเสนอศาลจังหวัดทุ่งสงอนุมัติหมายจับรถที่ 2 คาดว่า 4-5 คนในจำนวนดังกล่าวมีผู้ใหญ่บ้านบางคนในตำบลบ้านลำนาว อำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราชรวมอยู่ด้วย

ไพฑูรย์ อินทศิลา /นครศรีธรรมราช
27 มี.ค.2568