เมืองคอนเดือด!! 2 มือปืนบุกซัลโว 5 นัดสังหาร “ปอนด์ โมคลาน” ขาใหญ่ายาเสพติดเพิ่งพ้นคุกดับคาที่
เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. วันนี้ ( 8 ก.ค.68 ) ร.ต.อ.ณรงค์ชัย คงช่วย รอง สว.(สอบสวน)สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุยิงกันเสียชีวิต บริเวณบ้านหลังหนึ่งซึ่งเปิดเป็นแผงขายกล้วย และสัปปะรดริมถนนสายอู่ตะเภา-ท่าศาลา เลขที่ 28 หมู่ 11 ตำบลโมคลาน อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ธวัชชัย สังฆมิตกล ผกก.สภ.ท่าศาลา ตำรวจ สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช พ.ต.ท.เกษมสิทธิ์ จำปาทอง รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.สมชาย มวยดี รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ธีระพล พุ่มชัย รอง ผกก.ป. พ.ต.ต.อภิรักษ์ จันทวิเศษ สว.สส.สภ.ท่าศาลา และกำลังชุดสืบสวนสอบสวน แพทย์เวร รพ.ท่าศาลา และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยประชาร่วมใจ รีบรุดไปสอบสวนชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ
โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งปูน ที่บริเวณหน้าบ้าน พบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายอิทธิอมรจรรยาพันธ์ หรือฉายา”ปอนด์ โมคลาน” อายุ 29 ปี เป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ถูกยิงหลายนัดเข้าที่ศีรษะ 3 นัดและลำตัว 1 นัด ล้มหงายเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ในชุดกางเกงขาสั้นสีดำ เสื้อยืดสีดำ จมกองเลือกมือซ้ายกำสร้อยคอทองคำน้ำหนักประมาณ 1 บาท สภาพคล้ายกับถูกแรงกระชากจนขาด ตรวจสอบภายในบ้านพบกระสุนปืนยังเจาะห้องกระจกอยู่ 1 นัดจนกระจกแตกกระจาย และพบกล้วยน้ำหวา 3 หวีวางอยู่บนลังพลาสติกสีส้มใส่น้ำแข็งขนาดใหญ่ ในขณะที่บนราวเหล็กด้านข้างมีกล้วยไข่แขวนอยู่จำนวนมาก

จากการสอบสวนทราบว่านายอิทธิภัทร หรือ “ปอนด์ โมคลาน” เป็นบุตรชายของนายอมรศักดิ์ ซึ่งเป็นคนที่มีชื่อเสียง ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นประธานกองทุนหมู่บ้าน นับว่ามีฐานะดีระดับหนึ่งในหมู่บ้าน โดยในช่วงที่เป็นวัยรุ่นนายอิทธิภัทร อมรจรรยาพันธ์ หรือฉายา”ปอนด์ โมคลาน”กลับมีนิสัยชอบลักเล็กขโมยน้อย สร้างความเดือดร้อนให้เพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง เป็นที่หนักใจของนายอมรศักดิ์ เป็นอย่างมาก พยายามอบรมสั่งสอนให้ลูกชายเป็นคนดี แต่บุตรชายกลับไม่สนใจและไม่เชื่อฟัง จนต่อมาได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดทั้งในฐานะผู้เสพและผู้ขายกลายเป็นขาใหญ่ในพื้นที่ จนได้รับฉายา “ปอนด์ โมคลาน” และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดีในข้อหาค้ายาเสพติดต้องโทษจำคุกอยู่หลายปี เพิ่งพ้นโทษออกจากคุกมาได้ประมาณ 4- 5 เดือน โดยบอกกับพ่อแม่ และญาติ ๆ รวมทั้งเพื่อนบ้านว่าตัวเองกลับตัวเป็นคนดี เป็นสุจริตชนแล้ว โดยจะหันมาประกอบอาชีพรับซื้อกล้วยไข่ สัปปะรดจากเพื่อนบ้านมาวางและแขวนขายหน้าบ้าน อย่างไรก็ตามชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่า ”ปอนด์ โมคลาน”ผู้ตายจะกลับตัวเป็นคนดีจริง ๆ และน่าจะมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอยู่เหมือนเดิม เพียงแต่ยึดอาชีพขายกล้วยบังหน้าเท่านั้น
ก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้ายจำนวน 2 คนได้ขับรถ จยย.สีแดง คนขับสวมหมวกกันน็อคสวมเสื้อสวมเสื้อแจ็คเก็ตสีดำ คนซ้อนท้ายสวมเสื้อฮู้ดสีดำคลุมศีรษะขับรถมาจอดและและเรียกชื่อ “ปอน โมคลาน” เหมือนเป็นคนที่รู้จักสนิทสนมอ้างว่าขอซื้อกล้วยไข่ 3 หวี ในขณะที่นายปอน โมคลาน ผู้ตายหยิบกล้วยไข่จากราวที่แขวน 3 หวีมาวางบนลังน้ำแข็งใบใหญ่และหันไปหยิบถุงเพื่อใส่กล้วยไข่ คนร้ายที่นั่งซ้อนได้เดินลงมากและชักอาวุธปืนรัวยิงใส่ผู้ตาย 5 นัดซ้อน จนล้มฟุบเสียชีวิตคาที่ก่อนพากันขับรถ จยย.ซ้อนท้ายหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

ในขณะที่นายอมรศักดิ์ พ่อผู้ตายระบุว่า ก่อนเกิดเหตุนายอิทธิภัทร หรือปอนด์ บุตรชายได้ยืนขายกล้วยอยู่หน้าบ้าน ในขณะที่ตนกำลังจะขับรถ จยย.ออกไปทำธุระนอกบ้าน ได้มีคนร้าย 2 คนขับรถ จยย.สีแดงมาจอดหน้าร้านคนหนึ่งสวมเสื้อแจ็คและสวมหมวกกันน็อคสีดำ ส่วนอีกคนสวมเสื้อแจ็คเก็ตสีดำมีฮู้ดคลุมศีรษะเข้ามาจอดทำทีว่าซื้อกล้วย ซึ่งตนก็ไม่ได้สงสัยอะไรคิดว่าเป็นลูกค้ามาซื้อกล้วยตามปกติและตนได้ขับรถ จยย.ออกไปทำธุระ และออกไปได้ไม่กี่ร้อยเมตร ตนก็ได้ยินเสียงปืนดังแต่ไม่ได้สนใจอะไรยังขับรถไปจนถึงบ้านเพื่อน ไม่ทันได้นั่งก็มีคนขับรถ จยย.มาตามบอกว่านายลูกชายเสียชีวิตจึงกลับมาดู ส่วนสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทที่อยู่ในกำมือซ้ายของนายปอนด์ ผู้ตายนั้นเป็นสร้อยคอทองคำของน้องสาวผู้ตายที่นายปอนด์ ยืมมาสวมใส่ ซึ่งคนร้ายพยายามจะชิงเอาไปด้วย แต่ผู้ตายไม่ยอมและแย่งดึงกลับมาได้ก่อนที่คนร้ายจะตัดสินใจรัวยิง 5 นัดซ้อน
“โดยประเด็นที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสงสัยว่าคนร้ายจะชิงทรัพย์นายปอนด์ บุตรชายนั้นตนมั่นใจว่าไม่ใช่อย่างแน่นอน ซึ่งตนมั่นใจว่ามาจากปัญหาเดิมคือการพัวพันกับยาเสพติดและเกิดการหักหลังกันขึ้นจนนายปอนด์ ถูกสั่งตายดังกล่าว เพียงแต่คนร้ายเห็นว่านายปอนด์ บุตรชายสวมสร้อยคอทองคำอยู่ด้วย จึงเข้าไปกระชากชิงไปเป็นของแถม แต่เมื่อเมื่อชิงทองไม่สำเร็จจึงตัดสินใจรัวยิงอย่างโหดเหี้ยม 5 นัดซ้อนจนนายปอนด์ บุตรชายล้มฟุบเสียชีวิต จากนั้นคนร้ายจึงรีบวิ่งหลบหนีไป โดยไม่ได้เอาสร้อยคอทองคำไปด้วย ตนยืนยันและมั่นใจคนร้ายประสงค์ต่อชีวิตเป็นหลักไม่ได้ประสงค์ต่อทรัพย์สินสร้อยคอทองคำ แค่หวังเป็นของแถมและเบี่ยงเบนประเด็นการสังหารเท่านั้น”นายอมรศักดิ์ พ่อผู้ตายยืนยัน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าหลังจากก่อเหตุคนร้ายได้ขับรถหลบหนีไปทาง อ.ท่าศาลา และกล้องวงจรปิดที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ 300-400 เมตร สามารถจับภาพเอาไว้ได้ โดยคนที่นั่งซ้อนท้ายพยายามจะถอดเสื้อฮู้ดสีดำออก เพื่อตบตาหรืออำพรางเจ้าหน้าที่ที่แกะรอยติดตามจับกุมซึ่งพบว่าสวมเสื้อยืดสีขาวแขนสั้นเอาไว้ด้านใน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังออกสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดและรวบรวมพยานหลักฐานคลี่คลายคดีเพื่อติดตามจับกุม 2 คนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ไพฑูรย์ อินทศิลา /นครศรีธรรมราช
8 ก.ค.2568