สุดระทึก..!!ตชด.ที่ 42 สนธิกำลังไล่ล่าข้ามจังหวัดจับกุมขบวนการขนแรงงานต่างด้าว

(16 ส.ค.) พ.ต.อ.พิมณรัตน์ ธรรมาธิปติ์ ผกก.ตชด.42 อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ได้รายงานผลการปฏิบัติหน้าที่ให้ ผู้บังคับบัญชาทราบว่า พล.ต.ท.นิตินัย หลังยาหน่าย ผบช.ตชด , พล.ต.ต.ณรงค์ ธนานันทกุล ผบก.ตชด.ภาค 4 , พ.ต.อ.เสกสรร อินทรสิทธิ์ รอง ผบก.ตชด.ภาค 4 และนางวิลาวัณฑ์ จริตงาน หน.สนง.ป.ป.ส.นครศรีธรรมราช จากคำสั่งของนายสมชาย ลีหล้าน้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เข้มงวดกวดขันในการสกัดจับกุมการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวโดยผิดกฎหมาย โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้รับรายงานว่าขบวนการค้ามนุษย์โดยนายทุนใหญ่จาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ จะขนแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองทางชายแดน จ.กาญจนบุรี มุ่งหน้าไปยังจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผ่านเส้นทางถนนเอเชีย 41 โดยจะใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อฟอร์ด 4 ประตู สีขาวหมายเลขทะเบียน 6 กข 5384 กรุงเทพมหานคร และรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อวอลโว่ สีขาวหมายเลขทะเบียน 6ขน 9534 กรุงเทพมหานคร

จึงสั่งการและมอบหมายให้ พ.ต.ท.กิติพัฒน์ รื่นรวย รอง ผกก.ตชด.42 , พ.ต.ท.สิทธิ์ณทรรชน์ ขาวสะอาด หน.ศป.ปส.กก.ตชด.42 พ.ต.ท.ธรรมนูญ ศรีประไพ ผบ.ร้อย ตชด.427 และ พ.ต.ต.อำพล สมอไทย หน.ชปส.กก.ตชด.42 นำกำลังออกตรวจราสุงเหตุการณ์บนถนนสายเอเซีย ในเขต อ.ทุ่งสง จนกระทั่งพบรถทั้งสองคันขับมาด้วยความเร็วสูง และส่งสัญญาณเพื่อขอทำการตรวจค้น แต่รถทั้งสองคันเร่งเครื่องขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขับรถได้ติดตามไปอย่างกระชันชิด และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ต่าง ๆ ทั้งใน จ.นครศรีธรรมราช และ จ.พัทลุง ให้ช่วยสกัดจับแต่ไม่ทันการณ์รถต้องสงสัยทั้งสองคันสามารถขับหลบหนีต่อไปได้ แบละเข้าสู่พื้นที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา
จึงประสานขอรับการสนับสนุนจาก พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ สุวรรณนพมาศ ผกก.สภ.รัตภูมิ หลังรับแจ้ง ผกก.สภ.รัตนภูมิ รีบวิทยุสั่งกสารให้ พ.ต.ท.ภาสกร กิจไพบูลย์ทวี รอง ผกก.ป.สภ.รัตภูมิ , พ.ต.ท.จิรวัฒน์ ปุ้ยเจริญ รอง ผกก.สส.สภ.รัตภูมิ พ.ต.ท.พงศ์ศักดิ์ หนูบูรณ์ สว.สส.สภ.รัตภูมิ นำกำลังออกไปสกัดจับบริเวณที่แยกคูหา อ. รัตภูมิ แต่คนขับรถต้องสงสัยทั้งสองคันยังพยายามซิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงล้อยางรถต้องสงสัยทั้งสองคันจนไม่สามารถขับหลบหนีต่อไปได้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะกรูกันเข้าทำการตรวจค้นจับกุม ได้ริมถนนเอเชีย 41 (เพชรเกษม) ตรงข้ามรัชนีรีสอร์ท หมู่ที่ 2 ตำบลคูหาใต้ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา

จากการตรวจค้นภายในรถเก๋งวอลโว่พบผู้ต้องหา 4 คนเป็นชาวไทย 3 คน ภูมิลำเนา จ.ประจวบคีรีขันธ์ 2 คน จ.ราชบุรี 1 คน และชาวเมียนมาร์ 1 คน ส่วนในรถกระบะแวนพบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาร์รวม 15 คน รวมผู้ต้องหาทั้งหมด 19 คน และยึดของกลางรถยนต์ 2 คัน โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง ควบคุมตัวผู้ต้อวหาพร้อมของกลางส่งมอบพนักวานสอบสวน สภ.รัตภูมิ จ.สงขลา ในเบื้องต้นแจ้งกับผู้ต้องหาที่ 1-4 ว่า “ ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยเหลือ หรือช่วยด้วยประการใดๆ แก่คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้พ้นจากการจับกุม ม.64 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และแจ้งเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาที่ 4 ว่า “ เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ม.81 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ” และ แจ้งกับผู้ต้องหาที่ 5-19 ว่า “ เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ม.81 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ”
ผู้ต้องหาที่ 5-19 ซึ่งชาวเมียนมาร์ให้การรับสารภาพว่าได้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายผ่านช่องทางธรรมชาติบริเวณด่านเจดีย์สามองค์ จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเดินทางไปยังประเทศมาเลเซียทาง จ.กาญจนบุรี และมีนายหน้าขับรถนำแรงงานต่างด้าวทั้งหมดมาส่งที่ อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในขณะที่ผู้ต้องหาที่ 1-4 รับสารภาพว่าตนทั้ง 4 คน ได้เดินทางไปรับแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายมาจากพื้นที่อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อไปส่งยังอำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา เพื่อเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย โดยมีนายหน้าติดต่อในการเดินทางและนายหน้าได้แจ้งกับพวกตนว่าเมื่อเดินทางมายังประเทศไทยแล้วจะมีบุคคลมารับตัวพวกตนไปส่งยังชายแดนประเทศมาเลเซีย จนกระทั้งมาถูกจับกุมดังกล่าว

ไพฑูรย์ อินทศิลา /นครศรีธรรมราช
16 ส.ค.2568