“มูลนิธิเป็นหนึ่ง” ยื่นมือช่วยสาวแม่เลี้ยงเดี่ยวลูก 3 โดนน้องสาวเพื่อนหมิ่นประมาทฯ ข่มขู่คุกคามปองร้ายจนหนีหัวซุกหัวซุน
(19 ส.ค.) ที่ สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช “พี่หลวงย้อยมาแล้ว” ตัวแทนมูลนิธิเป็นหนึ่ง นายสุนทร ลักษณะสมบูรณ์ ทนายความชื่อดัง ได้นำ น.ส.เจ อายุ 41 สาวแม่เลี้ยงเดี่ยวลูก 3 คน ปีอาชีพค้าขายน้ำผลไม้ พร้อม น.ส.เพ็ญ อายุ 41 ปี เพื่อนเดินทางเข้าให้ปากคำกับ ร.ต.ท.วิศรุต มหาโชติ พนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช กรณีแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.พักตร์ อายุ 39 ปี ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และข่มขู่ คุกคามทำให้ผู้อื่นเกิดความหวาดกลัว
น.ส.เจ อายุ 41 ปี ให้การในเบื้องต้นว่าตนได้ให้การช่วยเหลือ น.ส.เพ็ญ เพื่อนของตนมีปัญหาทะเลาะวิวาทกับคนในครอบครัว จนต้องออกมาเช่าบ้านอาศัยข้างนอกและป่วยเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วต้องเข้ารับการผ่าตัด รักษา ซึ่งกมารที่ตนให้การช่วยเหลือ น.ส.เพ็ญ สร้างความไม่พอใจให้กับ พ่อ แม่ และน้องสาวของ น.ส.เพ็ญ เป็นอย่างมาก ได้โพสต์ด่าประณามตนอย่างหยาบคายและเกิดเสียหายร้ายแรงในโลกโซเชี่ยล ส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพของตน ทำให้จำนวนลูกค้าลดลงเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ และยังตามข่มขู่ คุกคาม ปองร้ายตนจนเกิดความหวาดกลัวไม่กล้าออกไปเร่ขายน้ำผลไม้ตามปกติ ได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส เพราะขาดรายได้ไปโดยปริยาย


นอกจากนี้ น.ส.พักตร์ ยังตามรังควาญข่มขู่คุกคามบุตรสาวของตนวัย 10 ขวบถึงภายในโรงเรียน จนบุตรสาวหวาดผวาอย่างหนักไม่กล้าไปโรงเรียน โดยเรื่องนี้ น.ส.เพ็ญ พี่สาวของ น.ส.พักตร์ รับรู้เรื่องราวรายละเอียดทั้งหมดและมาเป็นพยานให้ตนในการแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.พักตร์ น้องสาว น.ส.เพ็ญ ตนเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งพาใครต้องหลบหนีหัวซุกหัวซุน จนได้ปรึกษากับ “กะสาว”อินฟลูเอน เซอร์ดังแนะนำให้ไปร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากนายไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวอาวุโส ประธานศูนย์ข่าวนคร 24 ชม. และประธานชมรมนักข่าว/สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช รวมทั้ง “พี่หลวงย้อยมาแล้ว”อินฟลูเอนเซอร์ดังอีกคนหนึ่งช่วยประสานมูลนิธิ “เป็นหนึ่ง” และ พ.ต.อ.กิตติชัย ไกรนรา ผกก.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จนนำมาสู่การแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.พักตร์ ดังกล่าว
ในขณะที่ น.ส.เพ็ญ อายุ 41 ปี เพื่อน น.ส.เจ กล่าวว่า ตนเป็นเพื่อนรักกับ น.ส.เจ ตั้งแต่เรียนมัธยม และแยกย้ายไปมีครอบครัว ตนมีลูก 1 คน ส่วน น.ส.เจ มีลูก 3 คนก่อนจะเลิกรากับสามี ก่อนหน้านี้ตนยังอาศัยอยู่กับพ่อแม่ ส่วน น.ส.เจ เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวสู้ชีวิตขายน้ำผลไม้ภายใต้แบรนด์ของตัวเองเพื่อเลี้ยงลูก 3 คน ต่อมาตนไม่สามารถตนแรงกดดันของบุคคลใกล้ชิดในครอบครัวได้จึงตัดสินใจออกมาเช่าบ้านอยู่อาศัย โดยมี น.ส.เจ เพื่อนรักคอยให้การช่วยเหลือทุกอย่าง ทำให้พ่อ แม่และน้องสาวไม่พอใจ น.ส.เจ ที่คอยช่วยเหลือตน โดย น.ส.พักตร์และคนในครอบครัวตนพยายามกลั่นแกล้ง น.ส.เจ และตนต่าง ๆ นานา มีการโพสต์ร้ายประจาน น.ส.เจ และตนทางโซเชี่ยล ตามข่มขู่ คุกคามปองร้ายต่อเนื่อง ไม่เว้นบุตรสาวของ น.ส.เจ อายุ 10 ขวบ ก็โดน น.ส.พักตร์ บุกเข้าไปในโรงเรียนอาละวาดข่มขู่จนบุตรสาวของ น.ส.เจ หวาดกลัวไม่กล้าไปโรงเรียน


ล่าสุดเมื่อเร็ว ๆ นี้ตนล้มป่วยเข้ารับการตรวจรักษาแพทย์ระบุว่าเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วจะต้องเข้ารับการผ่าตัดโดยด่วน แต่ตนยังไม่มีเงินรอเงินจากบริษัทประกันอยู่ แต่จู่ ๆ มีเงินจากลูกค้าของพ่อตนโอนเข้ามาในบัญชีประมาณ 1.6 แสนบาท ตนจึงไลน์แจ้งพ่อว่าขอนำเงินจำนวนดังกล่าวไปใช้ในการผ่าตัด แต่พ่อ แม่และ น.ส.พักตร์ น้องสาวไม่เชื่อว่าตนป่วยและจะเข้ารับการผ่าตัด และกล่าวว่าว่า น.ส.เจ เพื่อนรักของตนหลอกลวงเอาเงินไป ทั้ง ๆ ที่ไม่เป็นความจริงและ น.ส.เจ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาการทะเลาะวิวาทในครอบครัวตนแม้แต่น้อย เขามีแต่ช่วยเหลือตนด้วยความรัก เมตตาในฐานะเพื่อนเก่า หากไม่มี น.ส.เจ ช่วยเหลือตนไม่รู้ว่าชีวิตตนจะเป็นตายร้ายดีประการใด ส่วนเงินของพ่อ 1.6 แสนที่ตนนำไปใช้ในการผ่าตัดลิ้นหัวใจรั่ว เพิ่งออกจาก รพ.มาได้ไม่ถึง 1 อาทิตย์ เมื่อตนได้เงินจากบริษัทประกันตนพร้อมจะนำไปคืนทุกบาททุกสตางค์ ส่วนทางคดีตนขอยืนฝั่งที่ถูกต้องพร้อมจะเป็นประพยานให้ น.ส.เจ เพื่อนรักจนถึงที่สุด น.ส.เพ็ญกล่าว
นายสุนทร ลักษณะสมบูรณ์ ทนายความกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหา น.ส.พักตร์ 2 ข้อหาประกอบด้วยข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และข่มขู่ คุกคามทำให้ผู้อื่นเกิดความหวาดกลัว หากมีการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานพบว่าเข้าข่ายกระทำความผิดอื่น ๆ ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม รวมทั้งในส่วนของ พ่อ แม่ของ น.ส.พักตร์ และคนอื่น ๆ ที่พยานหลักฐานสาวโยงไปถึงก็จะต้องดำเนินคดีด้วยโดยในเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนจะเรียก น.ส.พักตร์ มารับทราบข้อกล่าวหา และหากจากนี้หากผู้ถูกกล่าวหาพร้อมพวกยังมีพฤติกรรมหมิ่นประมาทและข่มขู่คุกคาม ฯ ทางมูลนิธิเป็นหนึ่งจะนำ น.ส.เจ เข้าร้องขอความช่วยเหลือต่อยุติธรรมจังหวัด เพื่อขอคุ้มครองในฐานะผู้เสียหายและพยาน และรายงานให้พนักงานสอบสวนทราบเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมเพราะกระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระ และเป็นข้อมูลในยื่นคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาตามกระบวนการต่อไปอีกด้วย


ไพฑูรย์ อิทศิลา /นครศรีธรรมราช
19 ส.ค. 2568