หนุ่มวอนความเป็นธรรม! คดีรถยนต์เฉี่ยวชน จยย.น้องชายสาหัส 10 วันยังไม่รู้สึกตัว คดียังไม่คืบ
(29 ก.ย.) นายกิตติศักดิ์ ปรีชาวาท อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 189/7 หมู่ 3 ตำบลโพธิ์เสด็จ อำเภอเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 12.30 น. ในขณะที่นายสุทธิเวช อ้วงปื้น อายุ 35 ปี น้องชายตนขับรถ จยย. ฮอนด์ ทะเบียน 1กต 2298 นครศรีธรรมราช ไปตามถนนไสขัน หมู่ 3 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เกิดเฉี่ยวชนกับรถยนต์กระบะยี่ห้อฟอร์ด สีบรอนซ์เงิน ตอนครึ่ง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เป็นเหตุให้นายสุทธิเวช อ้วงปิ้น ได้รับบาดเจ็บสาหัส เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราช แพทย์ระบุว่าอาการสาหัสเนื่องจากศรีษะได้รับการกระทบกระเทือนเลือดคั่งในสมอง จึงเดินทางไปแจ้งความเป็นหลักฐานไว้กับ พ.ต.ท. กล้าหาญ ใจกระจ่าง ตำแหน่ง สว.(สอบสวน) สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช


นายกิตติศักดิ์ กล่าวอีกว่า หลังจากเกิดเหตุตนสงสัยว่าทำไมทางหน่วยกู้ภัย ฯที่มาช่วยในที่เกิดเหตุจึงไม่แจ้งเหตุกับพนักงานสอบสวน และไม่ยอมนกำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน แต่กลับจะนำผู้บาดเจ็บมาส่งที่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างกับจุดเกิดเหตุไม่มากนัก และได้ทราบว่าผู้บาดเจ็บคือนายสุทธิเวช อ้วงปิ้น น้องชายตน ตนจึงไปตรวจสอบในรถกู้ภัย ฯพบว่าน้องชายตนหมดสติ จึงพยายามเรียกชื่อและใช้มือตบหน้าเบา ๆ เพื่อให้ให้ฟื้นคืนสติ และพบว่ามีเลือดไหลทะลักออกมาจากปากและจมูก ตนจึงให้รถกู้ภัยรีบนำน้องชายส่ง รพ.โดยด่วน ซึ่งล่าไปแประมาณ 20-30 นาที และทราบว่ารถกู้ภัย ฯได้นำน้องชายตนไปส่งให้รถฉุกเฉิน รพ.มหาราช ที่มารับบริเวณสี่แยกเบญจมราชูทิศ จนถึงขณะนี้ผ่านมาเกือบ 10 วันน้องชายตนยังอาการสาหัส ไม่รู้สึกตัว แพทย์บอกว่าให้ตนและญาติ ๆ ทำใจเนื่องจากอาการไม่ดีขึ้น

“ตอนเกิดเหตุรถยนต์คู๋กรณีไม่ได้หนีไปไหน หลังเกิดเหตุได้ขับรถไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านในสวนไม่ไกลจากที่เกิดเหตุมากนัก อย่างไรก็ตามทางตำรวจได้ให้ตนไปหาข้อมูลภาพหรือคลิปคู่กรณี ตนจึงมาตรวจสอบติดตามได้ภาพ/คลิปรถยนต์คู่กรณีค่อนข่างชัดเจนแต่ไม่เห็นป้ายทะเบียน จึงมาประสานกับเจ้าหน้าที่กู้ภัย-กู้ชีพ เทศบาลตำบลโพธ์เสด็จได้ส่งภาพในที่เกิดเหตุ ซึ่งถ่ายติดคนขัยรถยนต์คู่กรณี แต่ตนยังไม่ทันได้โหลดเก็บไว้ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัย-กู้ชีพได้ทำการลบภาพดังกล่าวออกอย่างรวดเร็ว ตนจึงขอให้ส่งภาพดังกล่าวมาให้ตนอีกครั้ง เจ้าหน้าที่กู้ภัย-กู้ชีพจึงส่งกลับมาให้แค่ได้ตัดส่วนที่เป็นใบหน้าคนขับรถรถคู่กรณีออกไป ตนจึงเดินทางไปพบกับเจ้าหน้าที่กู้ภัย-กู้ชีพซึ่งเป็นผู้หญิงและส่งภาพมาให้ตน ก็บ่ายเบี่ยงอ้างว่าได้เลยภาพแล้วและไม่ยอมให้ภาพที่สามารถใช้เป็นหลักฐานมัดตัวคนขับรถคู่กรณี ตนจึงติดต่อผู้บริหารเทศบาลตำบลโพธ์เสด็จ ก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้ภาพดังกล่าว ทำให้ตนสงสัยว่าคนขับรถคู่กรณีอาจจะรู้จักดกับเจ้าหน้าที่กู้ชีพ-กู้ภัย และผู้บริหารเทศลาบลตำบลโพธ์เสด็จก็เป็นได้”
นายกิตติศักดิ์ กล่าวต่อไปอีกว่า ตนอยากจะวิงวอนขอร้องขอความเห็นใจจากคนขับรถคู่กรณี รวมทั้งเจ้าหน้ากู้ภัย-กู้ชีพและตำรวจได้โปรดเมตตาช่วยตนและน้องชายด้วย เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ไม่สามารถใช้สิทธิ์ตาม พ.ร.บ.ผู้ประสบภัยจากรถได้ เนื่องจาก พ.ร.บ.รถ จยย.ของน้องชายตนขาด จำเป็นอย่างมากที่ต้องใช้สิทธิ์ พ.ร.บ.รถคู่กรณีในการจ่ายค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น นายกิตติศักดิ์ กล่าววิงวอน

ไพฑูรย์ อินทศิลา /นครศรีธรรมราช
29 ก.ย. 2568