ข่าวทั่วไทย

Just another WordPress site

ข่าวทั่วไทย

Just another WordPress site

ข่าวทัวไป

หัวนะโมฟรีเวอร์!!คลื่นมนุษย์มืดฟ้ามัวดินแห่ร่วมพิธีรับเจ้าเมืองใหม่หวังครอบครอง”หัวนะโม”จากการโปรยหว่านตามความเชื่อโบราณ

(16 เม.ย.) ที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช หลังจากกรมส่งเสริมวัฒนะธรรม กระทรงวัฒนะธรรม ร่วมกับวัฒนธรรมและและสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช จัดกิจกรรมเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ 1 ใน 5 จังหวัดที่มีเอกลักษณ์ อัตลักษณ์โดเด่น ระหว่างวันที่ 11-15 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมีนักท่องเที่ยวและประชาชนทั้งชาวไทยแลต่างประเทศเดินทางมาท่องเที่ยวและร่วมกิจกรรมภายในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารในช่วงดังกล่าวร่วมแสนคน โดยไฮไลต์ที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางคือิการยืนยันทางวิชาการโดยสถาบีนดาราศาสตร์แห่งประเทศไทย เกี่ยวกับตำนานพระธาตุไร้เงา ซึ่งเป็นสปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในวันที่ 11 เม.ย. ของทุกปี สำหรัยบในปีนนี้พระธาตุไร้เงาในเวลา 12.21 น. ซึ่งตรงกับวันเถลิกศกเปลี่ยนปีใหม่ และยังตรงกับวันรนับเจ้าเมืองใหม่ของจังหงวัดนครศรีธรรมราชเมื่อครั่งโบราณอีกด้วย และในการจัดกิจกรรมครั้งนี้เกิดปรากฏการณ์ “หัวนะโมฟรีเวอร์”จากการที่มีการโปรยหว่านหัวนะโม รุ่นพระบรมธาตุมรดกโลก หลังเสร็จสิ้นพิธีรับเจ้ามืองใหม่เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา(15 เม.ย.)


โดยมีประชาชนจากทั่วทุกสาระทิศหลายหมื่นคนแห่เดินทางมากราบนมัสการพระบรมธาตุเจดีย์และร่วมในพิธีทำบุญเมืองและพิธีรับเจ้าเมืองใหม่ ตั้งแต่เวลา 18.30 -21.00 น.คืนที่ผ่านมา (15 เม.ย.) เพื่อรอการโปรยหว่านหัวนะโม “รุ่นพระบรมธาตุมรดกโลก” หลังเสร็จพิธี และเมื่อเริ่มโปรวยหว่านเกิดการแย่งชิงกันชุลมุนวุ่นวายและแทบจะเหยียบกันบาดเจ็บล้มตายจนต้องหยุดโปรยหว่านหัวนะโนอย่างทันที ถือโอกาสคุ้ยเขี่ยพื้นทรายเพื่อหาหัวนะโม กันอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรดาผู้คนที่ร่วมอยู่ในเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมาได้ถ่ายภาพ/ คลิปลงในโลกโซเชี่ยลจนเกิดเป็นไวรัลอย่างกว้างขวาง อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวและประชาชนจำนวนมากยังตั้งหน้าตังตาคุ้ยเขี่ยค้นหาหัวนะโมบริเวณลานรายหาดทรายแห้วหน้าองค์พระบรมธาตุเจดีย์กันอย่างต่อเนื่อง คนที่พบต่างแสดงความดีใจ ในขณะที่คนที่ขุดคุ้ยเขี่ยไม่ใพบก็ไม่ย่อท้อยังคงพยายามขุดเขี่ยกวาดพื้นทรายหาหัวนะโมทำให้กระแสความต้องการหัวนะโมพุ่งสูงมากจากการเช่าหัวละไม่กี่สิบบาทนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดพุ่งสูงขึ้นตั้งแต่หัวละ 200 – 500 บาท โดยมีนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัด 2-3 รายยอมควักเงินเช้าจากคนที่พบถึงหัวละ 3,000-5,000 บาทเลยทีเดียว


สำหระบหัวนะโมดังกล่าวเป็นหัวนะโมขนาดเล็ก 5- 6 มิลลิเมตร เป็นเม็ดที่มีลักษณะกลมทำด้วยทองเหลือง ทองแดง และเงินยวง สีเหลืองและสีน้ำตาลปนดำ ด้านหน้าจารึกอักษรปัลลวะหรืออักษรอินเดียโบราณ คล้าย ล.กลับหัว หรือที่เรียกว่าตัว “นะ” ไว้ ส่วนด้านหลังมี 2 แบบ ซึ่งแบบแรกมีรอยบากเป็นร่องลึกจัดสร้างประมาณ 20,000 หัว อีกแบบหนึ่งด้านหลังตอกตราพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราชเป็นสัญลักษณ์ จัดสร้างเมื่อปี 2563 จำนวน 4,000 หัวแต่นำมาร่วมโปรยหว่านหลังพิธีรับเจ้ามือใหม่เมื่อคืนที่ผ่านมาจำนวน 400 หัวเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหัวนะโมมีจุดเริ่มต้นมาหลายร้อยปี โดยเล่าสืบต่อกันมาว่า ในช่วงก่อนพุทธศตวรรษที่ 18 หัวนะโมเป็นเบี้ยที่ไว้ใช้แทนเงินตราสำหรับแลกเปลี่ยนเปลี่ยนสินค้าของอาณาจักรตามพรลิงค์ หรือจังหวัดนครศรีธรรมราชในปัจจุบัน โดยทำจากโลหะ เหตุที่ชื่อว่าหัวนะโมนั้น มาจากการจารึกอักษรปัลลวะหรืออักษรอินเดียโบราณ ที่เรียกว่าตัว “นะ” ไว้บนเม็ดเงินที่มีลักษณะกลม และเมื่อสมัยของพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช กษัตริย์แห่งอาณาจักรตามพรลิงค์ เกิดโรคห่าหรืออหิวาตกโรค หรือไข้ห่า ระบาดขึ้นอย่างหนัก จึงได้มีการทำพิธีปลุกเสกหัวนะโมขึ้นมาด้วยพิธีกรรมแบบพราหมณ์
โดยอัญเชิญเทพเจ้าสามพระองค์ ซึ่งได้แก่ พระศิวะ พระวิษณุ และพระพรหม มาสถิตในหัวนะโม แล้วนำไปหว่านยังจุดที่มีโรคระบาด และรอบๆ บริเวณเมือง ปรากฎว่าโรคระบาดได้หายไป และอีกครั้งในสมัยรัชกาลที่ 4 ของกรุงรัตนโกสินทร์ได้เกิดโรคห่าหรืออหิวาตกโรคระบาดในเมืองนครศรีธรรมราชเช่นกัน จึงได้ทำพิธีปลุกเสกหัวนะโมเพื่อนำไปหว่านแบบกาลก่อน ซึ่งโรคระบาดนั้นก็ได้หายไปเหมือนเดิม จึงเป็นเหตุให้ “หัวนะโม” เป็นของมงคลที่มีความศักดิ์สิทธิ์ของชาวนครศรีธรรมราชที่ส่วนใหญ่จะพกของมงคลนี้ติดตัว ซึ่งในปัจจุบันยังมีความเชื่อที่สืบทอดมาตั้งแต่ครั้งโบราณว่า “หัวนะโม” สามารถป้องกันอันตราย หรือป้องกันโรคภัยไข้เจ็บได้ ขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง


ไพฑูรย์ อินทศิลา /นครศรีธรรมราช
16 เม.ย. 2568

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *