ข่าวทั่วไทย

Just another WordPress site

ข่าวทั่วไทย

Just another WordPress site

ข่าวทัวไป

ตำรวจเมืองคอนดอดยื่นร้องศาลขอปล่อยตัว“แพะ”คดีพยายามฆ่า

จากกรณีเหตุการณ์ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้ยื่นขอหมายจับนายภูริส สายทอง หรือเดี่ยว อายุ 23 ปี บ้านอยู่ในซอยต้นหว้า 1 ตำบลโพธิ์เสด็จ อำเภอเมือง นครศรีธรรมราช ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดีพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยมีและใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุ เหตุเกิดปากซอยบุญพาสันติ เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา และได้ถูกตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้เสนอศาลขออนุมัติหมายจับและจับกุมดำเนินคดีและคัดคต้านการประดันตัวจนถูกคุมตัวฝากขังที่เรือนจำทัณฑสถานวัยหนุ่มนครศรีธรรมราช จนถึงวันนี้ (16เม.ย.) เป็นวันที่ 6 แล้ว โดยตั้งแต่วันโดนจับกุมครอบครัวได้วิ่งเต้นขอความช่วยเหลือรวมทั้งร้องขอให้ผู้สื่อข่าวช่วยเปิดเผยหลักฐาน ภาพถ่าย/คลิปวันเกอิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ ซึ่งอยู่ที่บ้านกับภรรยา เพื่อขอความเป็นธรรมเนื่องจากเป็นการจับแพะ โดยยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี ไม่รู้จักทั้งผู้บาดเจ็บหรือผู้ก่อเหตุ แต่กลับถูกยัดข้อหาและจับกุมอย่างไม่เป็นธรรม
  ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อ 16 เมษายน 2568 มีรายงานว่าหลังจากทราบข้อเท็จจริงในคดีและติดตามรวบรวมหลักฐานจนแน่ชัดว่าไม่ใช่ผู้ก่อเหตุตัวจริง พ.ต.อ.กิตติชัย ไกรนรา ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี รวมทั้งชุดสืบสวนเจ้าของรายงานการสืบสวนในการออกหมายจับให้รวบรวมหลักฐานเข้ายื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อขออำนาจศาลปล่อยตัวนายภูริส หรือเดียว สายทอง ผู้ต้องหาแพะในคดีนี้ทันที หลังจากศาลได้พิจารณาหลักฐานอย่างละเอียวแล้วพบว่าเป็นแพะจริง ๆจึงได้อนุมัติหมายปล่อยตัวเร่งส่งไปยังเรือนจำทัณฑสถานวัยหนุ่มนครศรีธรรมราช เพื่อปล่อยตัว
  โดยที่ทัณฑสถานวัยหนุ่มนครศรีธรรมราช ครอบครัวของนายภูริส ทั้งแม่ ลุง และภรรยา และกลุ่มเพื่อนที่ทราบข่าวได้มารอรับนายภูริสหรือเดี่ยว ด้วยความดีใจ โดยตำรวจที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ไม่มีการแจ้งข้อมูลใดๆ มายังครอบครัวของนายภูริสเลย แต่มีผู้หวังดีได้แจ้งการปล่อยตัวให้ทราบทำให้ต่างมารอรับด้วยความดีใจ
  เจ้าหน้าที่ทัณฑสถาน ฯได้ปล่อยตัวนายภูริส ออกจากประตูเรือนจำในเวลา 13.10 น. เห็นได้ชัดว่านายภูริส หรือเดี่ยว มีรูปร่างใหญ่มากน้ำหนักถึง 130 กก.สูง 180 ซม.คนละคนกับผู้ก่อเหตุที่ปรากฎในกล้องวงจรปิดอย่างเห็นได้ชัด หลังจากออกมามีแม่ และภรรยา โผเข้ากอดและนายภูริส ได้ตรงเข้ากราบเท้านายบุญเสริม ทองสงค์ หรือ “ประธานเหมง” ลุงที่คอยประสานงานให้ความช่วยเหลือและเข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากผู้สื่อข่าวเปิดเผยข้อเท็จจริงเรื่องนี้จนนำไปสู่การขื่นคำร้องขอปล่อยตัวดังกล่าว  ซึ่งเบื้องต้นนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ห้ามไม่ให้มีการบันทึกภาพ แต่เมื่อจากทราบว่านายภูริส หรือเดี่ยว ที่ถูกปล่อยออกมานั้นไม่ได้กระทำความผิดใดๆ แต่กลายเป็นแพะในคดี จึงปล่อยให้มีการถ่ายภาพได้
  ต่อนายภูริส หรือเดี่ยว เปิดเผย ว่าวันที่ถูกจับกุมนั้นอยู่ที่ขนอมเมื่อ 11 เม.ย.หลังจากที่ถูกคุมมาถึง สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้ถูกสอบสวนสวนและถามเชิงข่มขู่ว่าไปก่อเหตุยิงคนอื่น ตัวเองได้ปฏิเสธไปทั้งหมดยืนยันว่าไม่รู้เรื่อง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่รู้จัก  ซึ่งผมเกี่ยวข้องกับที่เกิดเหตุเพียงอย่างเดียวคือขับรถผ่านเวลาประมาณ 19.30 น.ไปนอนที่บ้าน จากนั้นออกจากบ้านอีกครั้งในเวลาประมาณ 23.00 น.ตำรวจไม่ฟังอะไร ไม่มีหลักฐาน และไม่หาหลักฐานใดๆเอาผมไปพิมพ์มือแล้วยัดคุกตั้งแต่วันนั้น ผมต้องทนทุกข์ทรมานเครียดมาก ผมขอฟ้องตำรวจที่เกี่ยวข้องทำให้ผมต้องติดคุกยัดคดีให้ผม ผมขอให้รับผิดชอบ” ผู้ต้องหารายนี้ยืนยัน
  ทางด้านนายบุญเสริม ทองสงค์ หรือ”ประธานเหมง”ประธานชุมชนต้นหว้า ระบุว่าได้ยืนยันมาตั้งแต่ต้นพร้อมทั้งหลักฐานตำรวจไม่ฟัง และไม่รับรู้ จนกระทั่งมาถูกจับและถูกขังอยู่ถึง 6 วัน ความเดือดร้อนมีทั้งทั้งครอบครัวต้องดิ้นรนหาทางช่วยเหลือเหลือ เสียเงินเสียทอง ที่สำคัญไม่ได้เป็นทำงานเขาต้องเสียโอกาสไปทำงานอะไรก็ไม่ได้เพราะเขามีประวัติอาชญากรทั้งที่ไม่ได้ก่อเหตุใดๆ เลยส่วนตัวเองหยุดงานมาทั้งอาทิตย์แล้วเพื่อพยายามวิ่งเต้นช่วยหลานใครตำรวจคนไหนจะรับผิดชอบ นายบุญเสริมกล่าว
  อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวพยายามประสานงานกับนายตำรวจระดับผู้บังคับบัญชา กลุ่มตำรวจที่ทำรายงานการสืบสวนคดีนี้ ปรากฏว่าไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูล


ไพฑูรย์ อินทศิลา /นครศรีธรรมราช
              16 เม.ย. 2568

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *