ข่าวทั่วไทย

Just another WordPress site

ข่าวทั่วไทย

Just another WordPress site

ข่าวทัวไป

ชายนิรนามทาสยานรกบุกยึดคฤหาสน์หรูมูลค่ากว่า 50 ล้านกลางเมืองคอน

(15 พ.ค.)ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ในพื้นที่ใกล้กับสี่แยกเบญจม ฯถนนกะโรม ต.โพธ์เสด็จ ว่ามีชายนิรนามคนหนึ่งแอบเข้ามายึดและหลับนอนอยู่อาศัยภายในบ้านหรือคฤหาสน์หลังใหญ่ เลขที่ 722/1 ซอยกะโรม 54 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเจ้าของบ้านไม่อยู่และยังทยอยลักขโมยทรัพย์สินออกมาจากในบ้านอย่างต่อเนื่องและยังคงเข้าออกเป็นประจำแทบทุกค่ำคืน โดยไม่กลัวกฎหมายบ้านเมืองและชาวบ้านแต่อย่างใด สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านในละแวกดังกล่าวเป็นอย่างมาก


หลังรับแจ้งผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบภายในซอยกะโรม 54 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พบบ้านหรือคฤหาสน์หลังใหญ่ ปลูกอยู่ในเนื้อที่กว่า 1 ไร่ มีรั้วสูง 2 เมตรล้อมรอบบริเวณบ้านมีเถาวัลย์เลื้อยปกคลุมรั้วเต็มไปหมด มูลค่าไม่น่าจะน้อยกว่า 50-60 ล้านบาท โดยมองด้วยสายตาเข้าไปภายในบ้านพบรถยนต์หรูจอดอยู่ 2 คัน รถ จยย. 1 คัน ในขณะที่ด้านหลังเป็นป่าละเมาะรกทึบและมีร่องรอยการลากของหนักจากบ้านออกมาจนพื้นหญ้าราบเรียบเป็นทางยาว
นางมลฤดี จิตต์เอื้อเฟื้อ อายุ 64 ปี ญาติเจ้าของบ้าน เปิดเผยว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นของพี่ชายตน ซึ่งมีปัญหากับพี่สะใภ้จนเลิกรากันไป พี่ชายไปมีภรรยาใหม่ที่ อ.ทุ่งสง ส่วนพี่สะใภ้ไปเปิดร้านขายยาอยู่แถวตลาดนาชุม ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ทราบว่าบ้านหลังนี้ได้โอนให้ลูกชายไปแต่ไม่มีใครสนใจเข้ามาอยู่อาศัยทิ้งไว้เฉย ๆ ภายในบ้านมีทรัพย์สินอยู่ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ 2 คัน รถ จยย. 1 คัน ทวี ตู้เย็น เครื่องอำนวยความสะดวกครบถ้วน นาน ๆ พี่สะใภ้และญาติ ๆ จะแวะมาดูสักครั้ง
“ในระยะหลัง ๆ ช่วงกลางคืนได้มีชายนิรนาม อายุประมาณ 35 ปีแอบเข้าไปในบ้านโดยปีนรั้วสูง 2 เมตรเข้าไปอาศัยหลับนอนอยู่ภายในบ้านเหมือนเป็นบ้านของตัวเองและจะทยอยลักขโมยทรัพย์สินภายในบ้านออกไปแล้วหลายรายการ โดยจะนำทรัพย์สินใส่กระสอบออกทางด้านหลังบ้านซึ่งเป็นป่าละเมาะยกข้ามรั้วสูง 2 เมตร ก่อนลากไปเก็บพักไว้ในป่าซึ่งทำเป็นซุ้มเพิกพักชั่วคราว และจะทยอยขนออกไปจากพื้นที่ซึ่งไม่ทราบว่ามีทรัพย์สินที่ถูกชายนิรนามขโมยเอาไปแล้วอะไรบ้าง กี่รายการ แต่ตนเคยพบเห็นตู้เย็นตั้งอยู่ในซุ้มป่าละเมาะ 1 เครื่องและตอนนี้ถูกขนย้ายออกไปแล้ว”


นางมลฤดี กล่าวอีกว่า บ้านหลังนี้อยู่ห่างจากป้อมยามตำรวจเบญจมฯไม่ถึง 100 เมตร ตนเคยเข้าไปสอบถามชายนิรนามคนดังกล่าวว่ามาทำไม และเข้าไปอาศัยหลับนอนในบ้านเขาได้อย่างไร ชายนิรนามคนดังกล่าวแสดงอาการไม่พอใจและอ้างโน้นอ้างนี่ต่าง ๆ นา ๆ ตนและชาวบ้านต่างหวาดผวากลัวว่าชายนิรนาม ซึ่งน่าจะติดยาเสพติดต่อไปอาจจะขโมยทรัพย์สินตามบ้านเรือนของชาวบ้านรายอื่น ๆ และอาจจะเป็นอันตรายกับชาวบ้านในละแวกข้างเคียงได้ เคยแจ้งให้ตำรวจมาจัดการกับชายนิรนามหัวขโมยรายนี้ ซี่งทางตำรวจก็มาตรวจสอบภายนอกเท่านั้น ตำรวจบอกว่าชาวบ้านไม่ได้เป็นบ้านของบ้าน จึงไม่ได้เป็นผู้เสียหายหรือเจ้าทุกข์ ตำรวจไม่สามารถทำอะไรได้ไม่สามารถจับกุมเอาผิดกับชายหัวขโมยนี้ได้ จะต้องให้เจ้าของบ้านไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสามารถสอบสวนสืบสวนดำเนินคดีกับชายนิรนามหัวขโมยตัวแสบรายนี้ได้ ซึ่งตนเคยแจ้งให้พี่สะใภ้ทราบและให้มาตรวจสอบหรือแจ้งความแต่พี่สะใภ้ก็ไม่สนใจ นิ่งเฉย สร้างความหนักใจและวิตากกังวลให้กับตนและเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียงเป็นอย่างมาก


ไพฑูรย์ อินทศิลา /นครศรีธรรมราช
15 พ.ค. 2568

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *