เมืองคอนขอความร่วมมือ 5 โรงงานเปิดรับซื้อปาล์มจากเกษตรกร-พร้อมทำหนังสือถึง กปน.ขออำนาจจัดการลงโทษโรงงานที่ฝ่าฝืนคำสั่ง
จากกรณีปัญหาโรงงานหยุดรับซื้อปาล์มในจังหวัดนครศรีธรรมราชและภาคใต้ ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวสวนปาล์มเนื่องจากไม่มีที่จำหน่าย และนายสายัณห์ ยุติธรรม อดีต สส.พปชร.นครศรีธรรมราช ได้ออกมาเคลื่อนไหวเรียกน้องให้ภาสครัฐเร่งหามาตรการแก้ปัญหาบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรอย่างเร่งด่วน พร้อมกำหนด 4 มาตรการ ประกอบด้วย 1.ให้รัฐบาลสั่งกำชัยให้โรงงานทั่วประเทศรับซื้อปาล์มน้ำทันจากเกษตรกรในราคาอย่างน้อยกิโลกรัมละ 5 บาท 2.ขอให้รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์กำกับดูแลสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะพวกน้ำมันพืชที่ขึ้นราคาและไม่ยอมลงให้ลดราคาลง 20 เปอร์เซ็นต์ 3 เรื่องราคาปุ๋ยซึ่งราคาขึ้นสูงมากในขณะที่ปาล์มราคาตกต่ำและไม่มีที่ขาย ขอให้ลดราคาปุ๋ยลง 20 เปอร์เซ็นต์ และ 4.ให้รัฐบออกมาตรการช่วยเหลือโดยการเขยส่วนต่างเกษตรกรรายย่อยไร่ละ 1,000 บาทคนละไม่เกิน 15 ไร่ หากยังไม่ได้รับการแก้ไขจะนำเกษตรกรชาวสวนปาล์มขนทะลายปาล์มมาเททิ้งปิดถนนทางเข้าท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช

(29 พ.ค.) นางวจิราพร อมาตยกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เชิญนายสายัณห์ ยุติธรรม อดีต สส.พปชร. ,พาณิชย์จังหวัด เกษตรและสหกรณ์จังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดนครศรีธรรมราช และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมหารือแนวทางแก้ปัญหาการหยุดรับซื้อปาล์มในจังหวัดนครศรีธรรมราช ณ.ห้องประชุมสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อร่วมกำหนดมาตรการในการแก้ไขปัญหา
นายสายัณห์ ยุติธรรม กล่าวว่าหลังจากตนแถลงข่าวเมื่ออาทิตย์ก่อนปรากฏว่าโรงงานปาล์มที่หยุดรับซื้อปาล์มจากเกษตรกรในราคา กก.ละ 5 บาทขึ้นไปแต่ซื้ออยู่แค่ 2-3 วันตอนนี้ก็หยุดรับซื้ออีกครั้งสร้างความเดือดร้อนให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มอย่างมากไม่รู้จะนำปาล์มไปขายที่ไหน ซึ่งจากการติดตามสถานการณ์พบว่าหลายจังหวัดในภาคใต้เขาสามารถบริการจัดการแก้ปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรม เหลือแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชเท่านั้นที่ยังมีปัญหาโดยเฉพาะในพื้นที่ อ.เมือง พรหมคีรี ท่าศาลา นบพิตำ สิชล และ อ.ขนอม ที่มีโรงงานรับ.ซื้ออยู่ที่เดียวใน อ.สิชล ในขณะนี้หยุดรับซื้อปาล์ม ในขณะที่โรงงานในพื้นที่อื่น ๆ เช่น อ.เชียรใหญ่-อ.หัวไทร ก็รับซื้อเฉพาะปาล์มของเกษตรกรในพื้นที่เขตลุ่มน้ำปากพนังเท่านั้น ส่วนในพื้นที่อื่น ๆ สามารถขนไปขายตามโรงงานในจังหวัดข้างเคียงได้ จึงเหลือแต่ปัญหาของเกษตรกร5-6 อำเภอตามที่กล่าวข้างต้นตนอยากให้จังหวัดนครศรีธรรมราชมีคำสั่งหรือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีมาตรการบังคับขอความร่วมมือให้โรงงานทุกแห่งรับซื้อปาล์มตามปกติ ไม่จำกัดพื้นที่เหมือนที่เป็นอยู่ในขณะนี้

นางประไพ เพชรพงศ์พันธุ์ กล่าวว่า จากข้อมูลการผลิตปาล์มในจังหวัดนครศรีธรรมราชมีผลผลิตปีละ 2 ล้านตัน จำหน่ายให้โรงงานในจังหวัด 1 ล้านตัน ส่วนอีก 1 ล้านตันจำหน่ายให้โรงงานในจังหวัดข้างเคียง ที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจำนวนการรับซื้อปาล์มของแต่ละโรงงานอย่างต่อเนื่อง แต่ละโรงมีขีดจำกัดในการรับซื้อตามกำลังการผลิตของแต่ละโรงงานไม่ได้รับซื้อกักตุนไว้เพื่อส่งจำหน่ายไปยังโรงงานในจังหวัดข้างเคียง เพราะโรงงานในแต่ละจังหวัดข้างเคียงเขาจำกัดจำนวนการรับซื้อเฉพาะเกษตรกรขาประจำเท่านั้น จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัดไม่มีอำนาจในการสั่งให้แต่ละโรงงานรับซื้อ ทำได้แค่การขอความร่วมมือหากเขายังปฏิบัติตามเราก็ไม่มีอำนาจหรือมีบทลงโทษเขาได้ ในเบื้องต้นจะพยายามตรวจสอบและขอความร่วมมือไปยังทุกโรงงานในจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งมีเพียง 5 โรงงานให้ช่วยรับซื้อทะลายปาล์มของเกษตรกร
นายสุธีย์ มณีฉาย ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า หน่วยงานในระดับจังหวัดไม่มีอำนาจในการสั่งการและให้คุณให้โทษโรงงานที่หยุดรับซื้อได้ แต่คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ(กปน.)เขามีอำนาจเต็มในเรื่องนี้ ดังนั้นทางจังหวัดนครศรีธรรมราชและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องทำหนังสือถึงคณะกรรมการน้ำมันแห่งชาติ เพื่อให้มีคำสั่งมอบอำนาจลงมาให้จังหวัดหรือหน่วยงานในระดับจังหวัดมีอำนาจสั่งการและให้คุณให้โทษกับโรงงานที่ฝ่าฝืนคำสั่งได้โรงงานใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามก็จะมีบทลงโทษจนถึงขั้นสั่งปิดโรงงานไปเลยก็ได้ หากจังหวัดหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัดมีอำนาจเหมือน กปน. การแก้ไขปัญหาจะประสบความสำเร็จมากขึ้น โดยทางสภาเกษตรกรจะรับหน้าที่ในการร่างหนังสือถึงคณะกรรมการปาล์มน้ำมันอย่างเร่งด่วนต่อไป

นายสายัณห์ ยุติธรรม กล่าวหลังการประชุมว่า ผลสรุปในการประชุมจะเร่งดำเนินการใน 2 มาตรการ คือ 1. จังหวัดโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะพาณิชย์จังหวัดจะลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานปาล์มทั้ง 5 แห่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช และขอความร่วมมือให้ทุกโรงงานรับซื้อปาล์มจากเกษตรกรทั่วไป โดยไม่จำกัดจำนวนและพื้นที่ คาดว่าอีก 1-2 วันทุกโรงงานจะเปิดรับซื้อทะลายปาล์มของเกษตรกรตามราคาที่กำหนดไม่น้อยกว่า กก.ละ 5 บาท ส่วนการรับซื้อตามลานเทปาล์มราคาก็จะลดหลั่นกันลงมาบ้าง ซึ่งเกษตรกรก็เข้าใจขอให้มีการรับซื้อผลผลิตเท่านั้น แต่ปัญหาหลักคือเกษตรกรไม่รู้จะนำผลผลิตปาล์มไปขายที่ไหน และ 2. จะมีการทำหนังสือถึงคณะกรรมการน้ำมันแห่งชาติเพื่อให้มีคำสั่งมอบอำนาจให้จังหวัดหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัดมีอำนาจในการบริการจัดการ สั่งการให้คุณให้โทษโรงงานรับซื้อปาล์มที่หยุดรับซื้อได้ เชื่อว่า 2 มาตรการดังกล่าวน่าจะทำให้สถานการณ์ปัญหาการงดรับซื้อปาล์มน้ำมันในจังหวัดนครศรีธรรมราชหมดไปและกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน
“แต่หากสถานการณ์ความเดือดร้อนของเกษตรกรไม่ได้รับการแก้ไขใด ๆ เท่ากับว่ารัฐบาลไม่สนใจ ไม่ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาให้เกษตรกรชาวสวนปาล์ม ตนเชื่อว่าเกษตรกรชาวสวนปาล์มพร้อมที่จะนำทะลายปาล์มรายละ 1-2 ตันมาเททิ้งปิดถนนทางเข้าท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชอย่างแน่นอน” นายสายัณห์ กล่าวในที่สุด

ไพฑูรย์ อินทศิลา /นครศรีธรรมราช
29 พ.ค.2568