โอละพ่อ ผู้รับเหมาถูกซ้อม รีบถอนแจ้งความ เพราะเข้าใจผิด มิใช่ สส.ดังเมืองคอน
วันที่ 31 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้าสถานการณ์โดยทั่วไปในพื้นที่ อ.ร่อนพิบูลย์ ภายหลังมีกระแสข่าวโซเชี่ยลได้มีการพูดถึง กรณี สส. และ ส.อบจ.นครศรีธรรมราช พร้อมพวก รุมทำร้ายผู้รับเหมาในงานบวชลูกชาย นายก อบต.ควนพัง ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ เหตุเกิดเมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 23 พ.ค. 2568 และผู้เสียหายได้เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ. ร่อนพิบูลย์ เหตุวันที่ 24 พฤษภาคม 2568 นั้น

ล่าสุดในโลกโซเชี่ยลได้มีการเผยแพร่ภาพ 1) ภาพผู้รับเหมาได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะเนื่องจากถูกตีด้วยของแข็ง 2)ภาพถ่ายของสื่อเถื่อน ซึ่งเป็นภาพบันทึกประจำวัน ของ สภ.ร่อนพิบูลย์ ระบุ ลว.24 พ.ค.68 เวลา 09.08 น. ผู้เสียหาย อายุ 40 ปี บุตรชายผู้รับเหมาชื่อดัง เดินทางมา สภ. แจ้งว่าถูก สส.คนดังและน้องชายพร้อมพวก 10 คนทำร้ายผู้แจ้งด้วยการชกต่อยและใช้ของแข็งตีถูกที่ศีรษะได้รับบาดเจ็บเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลนครินทร์ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เหตุเกิดที่ งานบวชบ้านควนพังหมู่ 3 ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ เวลา 23.30 น.ของคืนวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 โดยมี พงส.เวร สภ.ร่อนพิบูลย์รับคำร้องพร้อมดำเนินการต่อไป 3) เป็นภาพ บันทึกประจำวัน สภ.ร่อนพิบูลย์ ผู้เสียหาย อายุ 40 ปี บุตรชายผู้รับเหมาชื่อดัง เข้าพบ พงส.คนเดิม แจ้งความประสงค์ ขอถอนคำร้องเนื่องจากเข้าใจผิดและไม่ขอประสงค์จะดำเนินคดีกับผู้ใดอีกต่อไป

4) แบบรายงานเหตุอุกฉกรรจน์และสะเทือนขวัญและเหตุที่ต้องรายงานด่วน ซึ่งภายในเอกสารระบุว่า ผู้เสียหาย มาลงบันทึกประจำวันตามเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น และในเย็นวันเดียวกัน ก็เดินทางมาขอถอนแจ้งความ ทาง สภ.ร่อนพิบูลย์ พร้อมระบุ เป็นการเข้าใจผิดไม่ประสงค์ดำเนินคดีกับผู้ใดต่อไป อีกทั้งไม่สะดวกให้ปากคำ เนื่องจากยังมีอาการเจ็บปวดบาดแผล พนักงานสอบสวนได้สอบสวนปากคำ นายก อบต.ควนพัง ซึ่งเป็นผู้จัดงานบวช ในวันเกิดเหตุไว้ และ พยานอื่นรวม 4 ปาก กระทั่งต่อมาวันที่ 29 พ.ค.68 มีภาพและข้อความปรากฏบนสื่อโซเซียลในเพจเฟซบุ๊คต่างๆ ในท่านองว่า สส.เมืองคอนกร่าง ยกพวกท่าร้ายผู้รับเหมาที่แต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จว.นครศรีฯ และต่อมามีการขยายความกระทั่งทางสื่อโซเซียลเชื่อว่าเป็นการกระทำของนายชัยชนะ เดชเดโช (สส.เขต 5 จว.นครศรีฯ) หากแต่ทาง สภ.ร่อนพิบูลย์ อยู่ระหว่างสอบสวนปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความจริง ประกอบข้อมูลการด่าเนินการต่อไป จึงรายงานตามลำดับชั้นให้ทราบ

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง ระบุว่า เหตุเกิดจริงและเป็นเรื่องจริง ในทางกฎหมายหาก ผู้บาดเจ็บไม่ประสงค์เอาเรื่องก็จบคงทำอะไรไม่ได้ วันนี้ตำรวจแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายแล้ว และทนสภาพที่เกิดขึ้นทั้งก่อนหน้านี้และเหตุการณ์ในปัจจุบัน พวกเราชั้นผู้น้อย ถูกกดขี่ข่มเหงจากนักเลงอันธพาล สงสารชาวบ้านบางคนนั่งเสียใจร้องไห้บนโรงพัก อยากบอกว่าในหนังเราดูเป็นแบบไหน ของจริงที่ร่อนพิบูลย์ก็เป็นแบบนั้น ผมกล้าบอกเพราะพวกเค้าดูหมิ่นเกียรติตำรวจ คนนอกยังไม่เท่าไหร่ ตำรวจด้วยกันยังไปเป็นลิ่วล้อให้เค้า แล้วพวกผมจะอยู่อย่างไร ปิดปากไปจนตายใช่มั้ยครับ ผู้สื่อข่าวรายงานขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดคุยกับสื่อ มีท่าทางหันซ้ายหันขวาเกรงใครจะมาเห็น สุดท้ายบอกสื่อให้อยู่ในนี้ก่อนค่อยเดินออกหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวเดินออกไปแล้ว 10 นาที
อย่างไรก็ตามที่รายงานข่าวล่าสุดว่าทางผู้เสียหายซึ่งได้รับช่วยเหลือจากนายเชาว์ มีขวด ทนายความชื่อดัง อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และอีกหลาย ๆ คนจะตัดสินใจเปลี่ยนมาแจ้งความดำเนินคดีอีกครั้ง โดยนายเชาว์ มีขวด จะนำเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม กรุงเทพมหานคร และดำเนินการร้องตามกระบวนการกับหน่วยงานและองค์กรตรวจสอบเพื่อเอาผิดกับผู้กระทำผิดในคดีนี้ต่อไป


ไพฑูรย์ อินทศิลา /นครศรีธรรมราช
31 พ.ค.2568