ร้องผู้ว่าฯ สั่งให้นายก ทต.ท่างิ้ว หยุดปฏิบัติหน้าที่-ชี้ขาดคุณสมบัติมาตั้งแต่ต้นเพราะถูกศาลอาญาทุจริตฯพิพากษาจำคุก 2 ปี 2 เดือน 20 วัน
(19 มิ.ย.) ที่สำนักงานหลักธรรมทนายความ ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายราชันย์ ชำนาญคำ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 หมู่ที่ 3 ตำบลท่างิ้ว อำเภอเมือง หวัดนครศรีธรรมราช พร้อมคณะได้ร่วมกันเก็บรวบรวมข้อมูลหลักฐาน เพื่อเดินทางไปพบนายสมชาย ลีหล้าน้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช สอบถามความคืบหน้าและยืนหลักฐานเพิ่มเติม กรณีการร้องเรียนการขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งนายกเทศบาลตำบลท่างิ้ว อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งนายราชันย์ พร้อมคณะได้เคยยื่นร้องขอให้ระงับ การรับรองผล การเลือกตั้งนายกเทศบาลดำบลทำงิ้ว ไว้เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2568 ที่ผ่านมา แต่ทางจังหวัดนครศรีธรรมราชยังไม่ได้ชี้แจงผลการดำเนินการให้นายราชันย์ ผู้ร้องทราบแต่อย่างใด
สำหรับรายละเอียดในเอกสารที่ยื่นร้องการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลท้างิ้ว ระบุว่านายชยกร แก้วมณี ได้สมัครลงชิงตำแหน่งนายกเทศบาลตำบลท่างิ้วด้วย ผลการเลือกตั้งปรากฏว่านายชยกร แก้วมณี ได้รับการเลือกตั้งได้คะแนนสูงสุดจากการเลือกตั้งเมื่อวีนที่ 11 พ.ค.2568 ในขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลประกาศการรับรองจาก กกต. ของทางจังหวัดนครศรีธรรมราช อยู่ ข้าพเจ้าในฐานะผู้ร้องคัดค้านขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่านายชยากร แก้วมณี เป็นบุคคลขาดคุณสมบัติที่จะดำรงตำแหน่งนายกเทศบาลตำบลทำบลท่างิ้ว ตามพระราชบัญญัติผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งเฉพาะได้บัญญัติห้ามไว้ เนื่องจากนายชยากร แก้วมณ์ ได้ถูกอัยการสูงสุดโดยพนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบภาค 8 ได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมอชอบภาค 8 เป็นคดีอาญาดำที่ อท 11 /2552 หมายเลขแดงที่ อท 70 / 2565 และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8ได้พิพากษาลงโทษคุกนายชยกร แก้วมณีและพวกเป็นเวลา 2 ปี 2 เดือน 20 วัน โดยไม่รอการลงอาญา
ซึ่งตามพระราชบัญญัติการดำรงตำแหน่งทางการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งเฉพาะมาตรา 77 และมาตรา 81 ได้บัญญัติไว้ว่า ในกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองประทับรับฟ้องตามมาตรา 77 ให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษาเว้นแต่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาให้ต้องคำพิพากษานั้นพันจากตำแหน่งนับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น ซึ่งจะเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกิน 10 ปีด้วยหรือไม่ก็ได้


“ข้อเท็จจริงดังกล่าวแม้นายชยกร แก้วมณี จะได้ชนะการเลือกตั้งและได้มีการรับรองจากผลการเลือกตั้งจาก กกต. จังหวัคนครศรีธรรมราชอยู่ก็ตาม แต่นายชยกร แก้วมณี ไม่อาจเข้าปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกเทศบาลตำบลท่างิ้ว ได้ตามความในมาตรา 81 ของพระราชบัญญัติผู้ดำรงทางการเมือง ฉะนั้นในฐานะท่านเป็นผู้ลงนามแต่งตั้งให้นายชยกร แก้วมณี ผู้ชนะการเลือกตั้ง จึงไม่อาจลงนามเพื่อแต่งตั้งนายชยกร ฯเป็นนายกเทศบาลตำบลท่างิ้วได้ ตามเหตุผลที่ได้กราบเรียนข้อเท็จจริงข้างต้นดังกล่าว จึงขอให้ท่านได้มีคำสั่งระงับการแต่งตั้งให้นายชยกร แก้วมณีดำรงตำแหน่งนายกเทศบาลตำบลท่างิ้ว ต่อไป
นายนายราชันย์ ผู้ร้อง ได้กล่าวว่าต่อมาทาง กกต.ได้ประกาศรับบรองผลการเลือกตั้งและทางเทศบาลตำบลท่างิ้ว นัดประขุมสภาเทศบาลท่างิ้ว ครั้งแรกในวีนที่ 20 มิ.ย. 2568 เรื่องนี้แม้การตัดสินจำคุกนายชยกร แก้วมณี เป็นเวลา 2 ปี 2 เดือน 20 วัน โดยไม่รอการลงอาญา และอยู่ระหว่างการอุทธรณ์สู้คดีซึ่งถือว่าคดียังไม่ถึงที่สุดก็ตาม แต่ถือว่าต้องห้ามตามพระราชบัญญัติเลือกตั้งมาตรา 77 และมาตร 81 อย่างชัดเจน ซึ่ง ในวันนี้ตนและคณะจึงนำเอกสารตามพระราชบัญญัติประกอบยรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามทุจริต พ.ศ. 2562 ประกอบความคิดเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่ 1486/2565 มายื่นเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ใช้ประกอบการพิจารณาออกคำสั่งให้เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย โดยการให้นายชยากร แก้วมณี หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที



“โดยกรณีเดียวกันนี้ตนได้ยื่นร้องคัดค้านไปยัง กกต.นครศรีธรรมราช ตั้งแต่ตอนสมัครเลือกตั้งว่านายชยากร ขาดคุณสมบัติและให้การเท็จต่อ กกต.ว่าตัวเองมีคุณสมบัติลงรับสมัครเลือกตั้ง แต่ กกต.กลับรับรองคุณสมบัติ จนมีการเลือกตั้งและนายชยากร ชนะการเลือกตั้ง ตนก็ยื่นร้องคัดค้านการรับรองผลการเลือกตั้ง แต่ กกต.ก็พิจารณารับรองผลการเลือกตั้ง โดยกรณีนี้เข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามกฎหมาย มาตรา 157 ชัดเจน ในวันพรุ่งนี้ (20 มิ.ย.) ตนและประชาชนจะรวมตัวกันหน้าเทศบาลตำบลท่างิ้ว เพื่อเรียกร้องให้ระงับการประชุมสภาครั้งแรก หากยังไม่เป็นผลตนจะให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการฟ้องร้องเอาผิดกับนายชยากร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทั้ง กกต.รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช จนถึงที่สุด.นายราชันย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายสมชาย ลีหล้าน้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได่ให้ศูนย์ดำรงธรรมตรวจสอบเอกสารการยื่นร้องเรียนเมื่อวีนที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมาพบว่าในขณเนี้อยู่ที่ท้องถิ่นจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยให้กลุ่มงานกฎหมายระเบียบและเรื่องร้องทุกข์ สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องอินจังหวัดนกรศรีธรรมราช สอบถามไปยัง กกต.นครศรีธรรมราช ซึ่งอยู่นระหว่างรอคำตอบจาก กกต.นครศรีธรรมราช และหากได้รับคำตอบหรือคำชี้แจงจาก กกต. ทางท้องถิ่นจังหวัดนครศรีธรรมราช จะรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบและจะแจ้งให้กับนายราชันย์ ผู้ร้องทราบตามลำดับต่อไป

ไพฑูรย์ อินทศิลา /นครศรีธรรมราช
19 มิ.ย. 2568