ผู้ปกครอง รร.นานาชาติเมืองคอน รวมตัวคัดค้านย้าย ผอ.เซ่นคลิป “คุณครูมนุษย์ป้า” ”ทนายเอก” พ่อเด็กชี้อย่าให้ ผอ.ตกเป็นเหยื่ออีกคน

จากรณีทนายความ ชื่อดังในจังหวัดนครศรีธรรมราช ร้องเรียนศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.ชมรมนักข่าว/สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราชว่า บุตรชายวัย 8 ขวบ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ห้อง ป.2/4 รงเรียนนานาชาติเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช ถูกครูผู้หญิง ซึ่งเป็นคุณครูประจำชั้นใช้ด้ามไม้กวาดตีหลายครั้ง และกระชากผ้าพันคอจนล้มศีรษะกระแทกพื้น โดยขณะก่อเหตุตัวคุณครูได้ส่งเสียงหวีดร้องเพราะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ หลังหนูน้อยเหยื่อความป่าเถื่อนได้ลุกขึ้นยืนได้เดินโซซัดโซเซเพราะมีปัญหาในการทรงตัวได้ไม่ปกติ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา ภายในห้องเรียน ป.2/4 ท่ามกลางสายตาเพื่อนนักเรียนกว่า 30 คนที่อยู่ในอาการหวาดกลัวรวมทั้งคุณครูอีก 1 คนที่อยู่ในห้องตอนเกิดเหตุ ต่อมาทาง ผอ.โรงเรียนได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร่ายแรงและสังพักการสอน พร้อมเปลี่ยนคุณครูประจำชั้นคนใหม่ และ ผอ.ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมและดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

(24 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่าทางสมาคม/ชมรมผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนนานาชาติเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช ได้นัดรวมตัวกันเดินทางเข้าพบ ดร.กณพ เกตุชาติ นายกเทศมนตรีนคร นครศรีธรรมราช และคณะผู้บริหารรวมทั้งกองการศึกษาเทศบาย ฯเพื่อเรียกร้องและขอคำชี้แจงถึงเหตุผลที่ทางเทศบาล ฯมีคำสั่งย้ายนายไตรวัฒน์ ตรีสัตยพันธุ์ ผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนนานาชาติเทศบาลนครศรีธรรมราช ไปช่วยราชการประจำกองการศึกษาเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช หลังจากเหตุการณ์คุณครูประจำชั้น ป.2 /4 สติแตกก่อเหตุใช้ด้ามไม้กวาดทุบตีนักเรียน ป.2 อายุ 8 ขวบอย่างรุนแรงและยังจับดึงผ้าพันคอเด็กคนเดียวกันกระชากอย่างแรงจนเก็บหงายหลังล้มลงกับพื้น ซึ่งหลังเกิดเหตุทางนายไตรวัฒน์ ตรีสัตยพันธุ์ ผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนนานาชาติเทศบาล ฯได้มีคำสั่งระงับการสอนและแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงคุณครูคนดังกล่าวอย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมาตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ และยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย สร้างความพึงพอใจให้กับผู้ปกครองของเด็กนักเรียนผู้เสียหายเป็นอย่างมาก
ตัวแทนผู้ปกครองรายหนึ่งกล่าวว่า เท่าที่ทราบเหตุผลที่มีการย้ายนายไตรวัฒน์ ผอ.ในครั้งนี้มาจากกรณีที่ผู้ปกครองเด็กผู้เสียหายคือทนายเอก ทนายความชื่อดังพ่อของเด็กและแม่เด็กได้เข้ามายื่นหนังสือเพื่อขอให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและมอบคลิปจากกล้องวงจรปิดให้กับทนายเอก ก่อนนำไปร้องเรียนสื่อมวลชนและเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง จนกลายเป็นข่าวฉาวโฉ่ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและชื่อเสียงของโรงเรียนนานาชาติ ซึ่งทางผู้บริหารมองว่าหากนายไตรวัฒน์ ผอ.ไม่ให้คลิปกับผู้ปกครองเด็กก็จะไม่มีพยานหลักฐานร้องสื่อและแจ้งความเรื่องก็ไม่ฉาวโฉ่ออกมา เทศบาล ฯถือว่าเป็นความผิดจนต้องมีคำสั่งย้าย ผอ.ไปประจำกองการศึกษาเทศบาล ฯดังกล่าวหรือไม่
ในขณะที่ “ทนายเอก”พ่อของหนูน้อย ป.2 ที่ตกเป็นเหยื่อคุณครูมนุษย์ป้า กล่าวว่า ในเย็นวันศุกร์วันเกิดเหตุ(18 ก.ค.) หลังจากลูกชายมาเล่าเรื่องราวให้ฟังในวันที่ 19 ก.ค. ตนจึงทำหนังสือถึง ผอ.มอบหมายให้ภรรยาเป็นคนลงชื่อและเข้ายื่นถึง ผอ.รร.เพื่อขอให้ตรวจสอบวงจรปิดว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงตามที่ลูกชายเล่าให้ฟังหรือไม่ ทาง ผอ.ก็ร่วมตรวจสอบพบว่ามีเรื่องเกิดขึ้นตามที่ลูกชายตนเล่าให้ฟังจริง ตนจึงขอคลิปเหตุการณ์ไว้เป็นหลักฐานนำมาร้องสื่อมวลชนและเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับคุณครูประจำชั้นตามที่เป็นข่าวมาอย่างต่อเนื่อง

“นอกจากสมาคม/ชมรมผู้ปกครองจะเข้าพบ ดร.กณพ เกตุชาติ นายกเทศมนตรีนคร นครศรีธรรมราช เพื่อยืนหนังสือคัดค้านเรียกร้องให้ความเป็นธรรมกับ ผอ.รร.นานาชาติ ตนในฐานะพ่อเด็กเหยื่อความโหดร้าย ซึ่งถือเป็นผู้เสียหายในคดีนี้โดยตรงได้ทำหนังสืออีก 1 ฉบับถึง ดร.กณพ เกตุชาติ นายกเทศมนตรีนคร นครศรีธรรมราช เพื่อให้ความเป็นธรรมและทบทวนคำสั่งย้าย ผอ.รร.นานาชาติ ท่านเป็นคดดี โปร่งใส ตรงไปตรงมา และตนมองว่า ผอ.ดำเนินการแบบนี้เป็นการปกป้องเกียรติยศ ชื่อเสียงของโรงเรียนและเทศบาล ฯซึ่งเป็นต้นสังกัดอย่างแท้จริง หากเหตุผลที่โดนย้ายเพราะมอบคลิปเหตุการณ์ให้กับตนในฐานะผู้ปกครองเด็กที่ถูกกระทำกลายเป็นคนที่กระทำความผิดต้องถูกโยกย้าย ตนมองว่าไม่เป็นธรรมกับ ผอ. รร.นานาชาติ”
ทนายความชื่อดัง กล่าวอีกว่า ตนอยากให้มองในข้อเท็จจริงเป็นสำคัญ เรื่องนี้ถามว่าหากมีการรายงานหรือส่งคลิปให้ผู้บริหารเทศบาล ฯคลิปวีดีโอความจริงดังกล่าวจะถูกนำมาเผยแพร่หรือเป็นพยานหลักฐานในการที่ตนร้องเรียนสื่อและแจ้งความได้หรือไม่ โดยตนเชื่อว่าคลิปคงหายไปและเรื่องก็จะถูกปกปิดซุกปัญหาไว้ใต้อีกพรมอย่างแน่นอน ปัญหาที่มีอยู่จริงก็ไม่ได้รับการแก้ไข มีแต่จะสะสมหมักหมมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เด็ก ๆ จะต้องตกเป็นเหยื่อคุณครูที่มีพฤติกรรมแบบนี้ไปอีกสักกี่คน
“ตนขอวิงวอนให้มองที่ข้อเท็จจริงลูกตนเป็นเหยื่อคนหนึ่งแล้วอย่าให้ ผอ.ต้องกลายเป็นเหยื่อในเรื่องนี้อีกคน เท่ากับว่าทางผู้บริหารเทศบาล ฯต้องการปกปิดเรื่องฉาวโฉ่เพื่ออะไร เพื่อช่วยเหลือปกป้องคุณครูที่มีพฤติกรรมโหดร้ายป่าเถื่อน คนดังกล่าวใช่หรือไม่ เรื่องแบบนี้อย่าพยายามปกป้องคนผิด เขากระทำตัวเอง ไม่สมควรที่จะให้หลงเหลือแอบแฝงในอาชีพครู ซึ่งเป็นแม่พิมพ์แม่แบบของเด็ก เยาวชนอนาคตของชาติบ้านเมือง” หากลงเอยแบบนี้ตนคิดว่าเรื่องมันไม่จบแทนที่จะโปร่งใส ตรงไปตรงมา ปลาเน่าตัวเดียวในกระชังก็ควรจะหยิบปลาตัวนั่นทิ้งไปตัวเดียว ไม่ใช่โยนทิ้งปลาไปทั้งกระชัง มันไม่ถูกต้อง อย่าให้ความพยายามปกป้องคนผิดคนเดียวเป็นต้นเหตุให้ทุกคนในองค์กรเดือดร้อนไปด้วย เผาบ้านเพื่อฆ่าหนูตัวเดียว ไม่ไม่คุ้ม” ทนายเอก กล่าวยืนยัน

ไพฑูรย์ อินทศิลา /นครศรีธรรมราช
24 ก.ค. 2568