ข่าวทั่วไทย

Just another WordPress site

ข่าวทั่วไทย

Just another WordPress site

ข่าวทัวไป

สุดทน..!!ชาวบ้านลุกฮือปิดล้อมกุฏิเจ้าอาวาสอยู่กับสีกาสุดทนพฤติกรรม “อลัชชี” ตำรวจยกพลรักษาความสงบเรียบร้อย-คณะสงฆ์ชี้ไม่ผิดไม่ต้องสึก

(26 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (25 ส.ค.) ชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 4 ต.ท่างิ้ว อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช กว่า 200 คน รวมตัวกันกดดันพระครูปลัดชาย โชติธัมโม รักษาการเจ้าอาวาสวัดศาลาไพ ซึ่งในอดีตเป็นวัดของ “หลวงพ่อท่านเอียดดำ” พระเกจิอาจารย์ชื่อดังระดับประเทศ โดยชาวบ้านระบุว่ามีสีกาเข้ามาแวะเวียนหาและขับรถออกไปด้วยกันทั้งวันทั้งคืนจนชาวบ้านรับไม่ได้ โดยมี พ.ต.ท.นรากร เอียดช่วย รอง ผกก.ป.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช นำกำลังตำรวจ พร้อมพระวินยาธิการ หรือ ตำรวจพระ เข้าควบคุมสถานการณ์ป้องกันเหตุบานปลาย ประกอบกับภายในวัดถูกตัดกระแสไฟฟ้าเนื่องจากค้างค่าไฟต่อเนื่อง 4 เดือน และมีสุนัขกว่า 20 ตัวแย่งกันเห่ากรรโชกต่อเนื่อง และถ่ายมูลในศาลาโรงธรรมเกลื่อนไปหมดส่งกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง
โดยขณะชาวบ้านรวมตัวกันอยู่นั้นปรากฏว่าพระครูปลัดชาย รักษาการเจ้าอาวาสกับสีการูปร่างอ้วนคนหนึ่ง พยายามขับรถยนต์ของสีกาหลบหนีออกจากวัด แต่ชาวบ้านพากันเข้าปิดล้อมและปิดประตูล็อกกุญแจประตูวัดไม่ให้ขับหลบหนี ทำให้พระครูปลัดชาย รักษาการเจ้าอาวาสต้องจำยอมอยู่ภายในวัด นขณะที่สีกาเข้าไปหลบอยู่ในกุฏิเจ้าอาวาส


ทางด้าน ร.ต.อ.นพสิทธิ์ ตำรวจนอกราชการ ในฐานะชาวบ้านผู้อุปัฎฐากวัด ระบุว่า พฤติกรรมของพระครูปลัดชาย รักษาการเจ้าอาวาส สร้างความกังขาให้กับชาวบ้านจนนำไปสู่ความเสื่อมศรัทธา เพราะมีสีกามาเข้ามาอยู่ในวัดในยามวิกาลประจำ และยังไปไหนมาไหนสองต่อสองทั้งกลางและกลางคืน ซึ่งถือว่าไม่เหมาะ นอกจากนี้ยังพบปัญหาเรื่องเงินค่าใช้จ่ายของวัดอีกหลายประการ จนถึงขั้นค้างค่าไฟฟ้า 4 เดือนและโดนตัดกระแสไฟฟ้าทำให้วัดมืดมิดดังกล่าว
ล่าสุดพบว่ารักษาการเจ้าอาวาส โพสต์เฟซบุ๊กมีข้อความหวานซึ้งกับสีกาหรือไม่ก็ไม่ทราบ มีการสื่อสารไปในทำนองพูดคุยเหมือนคนรัก บางข้อความก็คล้ายโพสต์ข้อความตัดพ้อคนรัก ชาวบ้านได้ทำหนังสือร้องเรียนเจ้าคณะตำบลไปแล้ว แต่ไม่มีการดำเนินการใด ๆ เจ้าคณะตำบลขอให้ชาวบ้านไปแจ้งความเอาผิดกับรักษาการเจ้าอาวาสเอง ทำให้ชาวบ้านสุดที่จะทนต่อพฤติกรรมของรักษาการเจ้าอาวาสรายนี้ จนมาพบว่าภายในวัดมืดมิดเพราะค้างค่าไฟฟ้า 4 เดือนและยังพบรักษาการเจ้าอาวาสอยู่ในกุฏิกับผู้หญิงรูปร่างอ้วน ซึ่งเป็นคนเดียวกันกับที่พระครูปลัดชาย รักษาการเจ้าอาวาสมักจะออกไปกับหญิงอ้วนคนดังกล่าวจนถึงเช้าเป็นประจำ จึงมารวมตัวกันขับไล่ไม่ยอมรับให้อยู่ในวัดอีกแล้ว


ในขณะที่บรรยากาศตึงเครียด พระวินยาธิการ ได้ไปเจรจากับรักษาการเจ้าอาวาส จนในท้ายที่สุดยอมเจรจากับชาวบ้านและพระครูปลัดชาย ตกลงใจที่จะลาออกจากตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสและเก็บของออกไปจากวัดโดยพระวินยาธิการรีบนำตัวรักษาการเจ้าอาวาสออกจากวัดไปในทันที สร้างความพอใจให้กับชาวบ้านในระดับหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่เรียกร้องให้คณะสงฆ์ทำการสึกจากความเป็นพระเพราะสร้างความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของพระสงฆ์และพระพุทธศาสนามานานแล้ว
ในขณะที่ผู้หญิงอ้วนที่มาพัวพันกับรักษาการเจ้าอาวาสและนั่งนิ่งอยู่บนกุฏิ โดยชาวบ้านไม่ยอมให้ออกจากวัด เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปเจรจากับชาวบ้านเพื่อเปิดทางให้ผู้หญิงคนดังกล่าวออกไปจากวัด ชาวบ้านจึงยินยอมให้ผู้หญิงอ้วนขับรถยนต์ออกจากวัดไปอย่างรวดเร็ว ทำให้บรรยากาศคลี่คลายลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทางคณะสงฆ์อ้างว่ารักษาการเจ้าอาวาสไม่ได้มีความผิดถึงขั้นปาราชิก จึงไม่มีการสึกพระรูปดังกล่าวแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามเมื่อมีการตรวจสอบประวัติพบว่าพระรูปเดียวกันนี้เคยจำพรรษาอยู่วัดต่าง ๆ ใน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มาหลายวัดแล้วและมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมจนถูกชาวบ้านขับไล่ออกจากวัดหลายครั้ง จนล่าสูดได้รับการแต่งตั้งให้มารักษาการเจ้าอาวาสวัดศาลาไพ และมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมเหมือนเดิมจนชาวบ้านสุดทนรวมจัวกันประท้วงขับไล่พ้นวัดอีกครั้งดังกล่าว ส่วนในวัดยังมีพระภิกษุลูกวัดจำพรรษาอยู่อีก 1 รูปท่ามกลางความมืดมิด ชาวบ้านจะนัดรวมตัวกันบริจาคเงินเพื่อจ่ายค่าไฟที่ค้างต่อเนื่องมานาน 4 เดือนรวมกว่า 12,000 บาทเพื่อให้วัดกลับมามีกระแสไฟฟ้าใช้อีกครั้ง


ไพฑูรย์ อินทศิลา /นครศรีธรรมราช
26 ส.ค. 2568

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *