หนุ่มนักธุรกิจใหญ่ดับเครื่องชนร้องสื่อฯ ชาวบ้านเมืองคอนสุดระทมโรงงานอุตสาหกรรมชื่อดังรุกล้ำถมปิดลำเหมืองสาธารณะและผ่าผังเมืองก่อสร้างในโซนสีเขียวได้อย่างไร
(14 ก.ย.) ที่ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.ชมรมนักข่าว/สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช นายพงศ์ปณต อุปลา อายุ 39 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่ดำเนินธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ เข้ายื่นหนังสือร้องร้องขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือ กรณีการก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง บริเวณใกล้อาคารที่ทำการเทศบาลตำบลโพธิ์เสด็จ ที่น่าจะมีการทุจริต ไม่ถูกต้องตามกระบวนการกฎหมาย ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งมลพิษจากเสียงดัง ฝุ่นละออง และมีการถมปิดลำเหมืองเส้นทางระบายน้ำสาธารณะ ส่งผลให้ชาวบ้านที่อยู่อาศัยกันมาอย่างสงบสุขหลายชั่งอายุคนถูกน้ำท่วมอย่างหนักเกือบตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังขอให้ช่วยประสานผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี (ภาคประชาชน) ให้ช่วยตรวจสอบในกรณีดังกล่าวด้วย

นายพงศ์ปณต อุปลา กล่าวว่า ในปัจจุบันตนเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ครอบครองโฉนดที่ดิน เลขที่ 70897 เล่ม 709 หน้า 97 หน้าสำรวจ 9600 ตำบล โพธิ์เสด็จ อำเภอ เมืองนครศรีธรรมราช จังหวัด นครศรีธรรมราช และ โฉนดที่ดิน เลขที่ 16692 เล่ม 167 หน้า 92 หน้าสำรวจ 3034 ตำบล โพธิ์เสด็จ อำเภอ เมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยปัจจุบันโฉนดทั้งสองผืนนี้ ตนสร้างบ้านพักอาศัยมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท

โดยการใช้ประโยชน์ที่ดินก่อสร้างบ้านพักอาศัยดังกล่าวได้สร้างติดกับโรงงานอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการผลิตข้าวสาร ชื่อนำแสงไรซ์ แต่จากการตรวจสอบพบว่า ทางโรงงานดังกล่าวได้สร้างความเสียหายแก่ชุมชนและสิ่งที่ขัดต่อกฎหมายดังนี้ 1.ทางโรงงานก่อสร้างโรงงานโดยทับถมลำเมืองสาธารณะ เป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำท่วมมากขึ้นเพราะถมปิดระบายน้ำส่งผลกระต่อชุมชนด้านหลังและบริเวณไกล้เคียงโรงงาน มีการออกใบอนุญาตก่อสร้างได้อย่างไร มีใบอนุญาตถมดินหรือไม่ มีการขอใบอนุญาติทั้งหมดกี่อาคาร

2.ระยะร่นจากกำแพงโรงงานถึงตัวอาคาคารของโรงงาน รถดับเพลิงไม่สามารถวิ่งได้รอบผิดต่อ พรบ. อาคารเทศบาลได้ตรวจสอบหรือไม่ เทศบาลออกใบอนุญาตมาได้อย่างไร เกิดอันตรายต่อพื้นที่ติดกันหรือไกล้เคียง 3.พื้นที่โรงงานที่มีเครื่องจักรเกินกำหนดที่สร้างในพื้นที่สีเขียวตาม สำนักงานโยธาการและผังเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นชนบทและเกษตรกรรมเป็นพื้นที่ห้ามสร้างโรงงานอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมจังหวัดนครศรีธรรมราชออกใบอนุญาติ ” รง 4 ประเภท 3 ” มาให้ได้อย่างไร ส่วนนี้เทศบาลออกใบอนุญาตให้ก่อสร้างได้อย่างไร 4. การใช้พื้นที่ด้านหน้าโรงงานเป็นเขตของแขวงทางหลวงแผ่นดิน ซึ่งมีการใช้พื้นที่มากกว่าที่กฎหมายทางหลวงกำหนด โดยมีการผิดตั้งอุปกรณ์ป้ายอย่างถาวรในแขดพื้นพื้นที่แขวงทางหลวงส่านถิ่นให้อย่างได้อย่างไร และการใช้พื้นที่เส่วนตัวของโรงรานโดยห้ามบุคคลภายนอกเข้าไปในเขตพื้นที่สาธารณะได้อย่างไร 5.มีเสียงที่ดังรบกวนและฝุ่นมดพิษปล่อยออกมาจากท่อปล่อยของโรงงาน ทางสาธารณะสุขจังหวัดไม่ได้เข้ามาตรวจสอบหรือตรวจสอบผ่านได้อย่างไร รวมทั้งอุตสาหกรรมจังหวัดไม่เข้ามาตรวจสอบหรือตรวจสอบผ่านได้อย่างไร
นายพงศ์ปณต กล่าวอีกว่าซึ่งก่อนหน้าที่ตนได้ร้องเรียนไปยัง ศูนย์ดำรงธรรมนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 และทางศูนย์ดำรงธรรมนครศรีธรรรมราช ได้ส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตรวจสอบตามระเบียบและอำนาจหน้าที่ ต่อมาวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ยกคณะมาตรวจสอบที่โรงงานอุตสาหกรรมดังกล่าว และเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ได้มีเจ้าหน้าที่รังวัดของเจ้าพนักงานที่ดิน นครศรีธรรมราช ได้มาตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ของเทศบาลโพธ์เสด็จเกี่ยวกับการถมที่รุกล้ำลำเหมืองสาธารณะ โดยพบมีการรุกล้ำถมปิดลำเหมืองสาธารณะจริง และส่งผลตรวจสอบให้ทางเทศบาลโพธิ์เสด็จดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนแล้ว

แต่จากการร้องเรียนของตนมาถึงปัจจุบันใช้เวลาประมาณถึง 7 เดือนที่ตนร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด นครศรีธรรมราช เรื่องก็ยังคาราคาซังไม่แล้วเสร็จเสียที จึงมองว่าตนและชุมชนไม่ได้รับการเป็นธรรมแม้ทางโรงงานจะมีการกระทำที่ผิดต่อกฎหมายและส่งผลกระทบในวงกว้างต่อชาวบ้าน/ชุมชนอย่างชัดเจน ซึ่งความล้าช้ายิ่งจะเพิ่มความเสียหายและทีวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะเมื่อถึงช่วงถูดูฝนมวลน้ำมหาศาลจะไหลหลากลงมาสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านและชุมชนอย่างแสนสาหัส และเป็นปัญหาที่มีการสะสมมาอย่างยาวนานกว่า 10 ปีแล้ว ตนจึงใคร่รอความเป็นธรรมจากศูนย์ข่าวนคร 24 รม.ชมรมนักข่าว/สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช และที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการ สำนักมายกรัฐมนตรี (ภาคประชาชน) กรุณาช่วยประสานงานตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขปัญหานี้อย่างตรงไปตรงมาและเร่งด่วนต่อไป.เสี่ยหนุ่มกล่าวยืนยันหนักแน่น

ไพฑูรย์ อินทศิลา /นครศรีธรรมราช
14 ก.ย. 2568