รมช.เกษตรฯ ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราชอันเนื่องมาจากพระราชดำริคาดแล้วเสร็จทั้งระบบปี 2571
วันที่ (17 ต.ค.68) ที่บ้านช้างซ้าย หมู่ที่ 2 ตำบลช้างซ้าย อำเภอพระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะเดินทางมาตรวจราชการและรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ โดยมี นายสมชาย สีหล้าน้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย ผู้บริหารสังกัดกรมชลประทาน หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่ ตลอดจนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่ให้ต้อนรับและรายงานข้อมูล
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร โดยเฉพาะปัญหาภัยแล้งและราคาผลผลิตตกต่ำ พร้อมเร่งดำเนินนโยบายกระทรวงเกษตรฯ ใน 6 ด้าน ได้แก่ การเร่งจัดการที่ดินทำกินให้มั่นคง,การบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ,การยกระดับสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง ,การเสริมสร้างศักยภาพเกษตรกรรุ่นใหม่ , การจัดการทรัพยากรเกษตรอย่างยั่งยืนตามแนวทาง BCG และการปราบปรามสินค้าเกษตรผิดกฎหมายและขับเคลื่อนนโยบาย “3 สร้าง” ได้แก่ สร้างรายได้ สร้างตลาด และสร้างโอกาส

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า รัฐบาลพร้อมเดินหน้าพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พร้อมกำชับ หน่วยงานสังกัดกรมชลประทานในพื้นที่ ได้เร่งแก้ไขปัญหาเรื่องการกำจัดผักตบชวาและวัชพืชในแหล่งน้ำ การบริหารจัดการน้ำท่วม น้ำแล้ง และการดูแลเรื่องการเดินทางสัญจร และระบบขนส่งสินค้า ผลผลิตทางการเกษตรของพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่โครงการก่อสร้าง รวมทั้งการแก้ไขปัญหาเดือนร้อนรำคาญ ทั้งเรื่องเสียงและฝุ่นละอองจากการดำเนินการก่อสร้างตามโครงการด้วย ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้พบว่าปัญหาที่เจอเป็นปัญหาที่เป็นนโยบายหลักของท่านนายกรัฐมนตรีที่ได้สั่งการให้ดำเนินการให้เรียบร้อยก่อนที่น้ำจะท่วม เพื่อเพิ่มการคล่องตัวของการระบายน้ำ และในส่วนของความลำบากของพี่น้องประชาชนในการจะพาผลผลิตทางการเกษตรไปจำหน่าย ซึ่งในส่วนไหนที่เราสามารถดำเนินการได้ก็จะดำเนินการทันที
โดยในส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความห่วงใยอย่างยิ่ง และมีกำหนดจะเดินทางมาด้วยตัวเอง แต่เนื่องจากมีภารกิจต้องเดินทางไปทำภารกิจที่ประเทศจีนเรื่องของการส่งออกผลผลิตทางการเกษตรเลยให้ตนเองมาดูแลรับฟังปัญหาของ พี่น้องประชาชน ซึ่งหากโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราชอันเนื่องมาจากพระราชดำริเสร็จพี่น้องจะได้รับ ประโยชน์อย่างมากมาย ทั้งเรื่องของราคาที่ดินที่สูงขึ้น ถนนหนทาง และการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ โดยคาดว่าน่าจะน่าจะเสร็จภายในปี 2571

ในขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชมีพื้นที่การเกษตรกว่า 4.1 ล้านไร่ ประชากรกว่า 1.53 ล้านคน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีมูลค่าผลผลิตทางการเกษตรกว่า 194,669 ล้านบาท ปัจจุบันมีโครงการอ่างเก็บน้ำสำคัญ 5 แห่ง ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส อำเภอชะอวด ,อ่างเก็บน้ำคลองกะทูน อำเภอพิปูน ,อ่างเก็บน้ำคลองดินแดง อำเภอพิปูน และอ่างเก็บน้ำเสม็ดจวน และอ่างเก็บน้ำคลองสังข์ อำเภอทุ่งใหญ่ รวมความจุกักเก็บน้ำ 248.78 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีปริมาณน้ำสะสม 109.30 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 49.08% ซึ่งในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง
ทางด้านนางจิราภรณ์ รำพึงนิตย์ เลขานุการสภาองค์กรชุมชนตำบลช้างซ้าย ได้ฝากเน้นย้ำถึงการแก้ไขปัญหาความเสียหายและการเยียวยาฟื้นฟูหลังจากเกิดภัยแก่ผู้ประสบภัยด้านพืชที่มีหลักเกณฑ์ว่าการทำการเพาะปลูกพืชเนี่ยจะต้องตายสิ้นเชิงหรือไม่สามารถเยียวยาฟื้นฟูได้ โดยอยากให้ทราบว่าปาล์มน้ำมันเป็นพืชเศรษฐกิจของที่จะต้องมีน้ำท่วมขังเกิน 30 ถึง 60 วัน จึงจะตายนั่นหมายความว่าในวันที่เรายื่นคำร้องยังไม่ตายแล้วมันก็จะไม่เข้าหลักเกณฑ์หลังจากที่ผ่านการพิจารณาระดับจังหวัดขึ้นไปเพื่อขอรับงบประมาณพืชผลทางการเกษตรของเกษตรกรเสียหายแต่เราไม่สามารถได้รับเงินชดเชย ซึ่งในเบื้องต้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำปัญหาดังกล่าวไปแก้ไขอย่างเป็นระบบต่อไป

ไพฑูรย์ อินทศิลา /นครศรีธรรมราช
17 ต.ค.2568
ขอบคุณ/สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช