พุทธศาสนิกชนทั่วทุกสารทิศ ร่วมกันทอดกฐินสามัคคี วัดพุทธบูชาป่าโคกประสาท อำเภอ ชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์
บุรีรัมย์-พุทธศาสนิกชนทั่วทุกสารทิศ ร่วมกันทอดกฐินสามัคคี วัดพุทธบูชาป่าโคกประสาท อำเภอ ชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์

วันที่ 2พ.ย.68 ที่วัดพุทธบูชาป่าโคกประสาท ตำบลหนองปล่อง อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ นาย ณพล บริบูรณ์ นักวิชาการคณะทำงานทางเมือง ดร.ฉลาด ขำช่วง ประธานสภาคนที่สอง
นายกสมาคมสื่อมวลชนและนักประชาสัมพันธุ์ภาคตะวันออก นาย โกสินธ์ จินาอ่อน รองประธานที่ปรึกษา สว.สมหมาย ศรีจันทร์ ที่ปรึกษาผู้ตรวจการอัยการ บรรณาธิการข่าว ท็อปนิวส์ ทั่วไทย( ภาคเหนือ)น.ส.นภชนก เหมือนนามอญ ที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภคสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานทอดกฐินพร้อมพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก ได้เดินทางมาร่วมกันทอดกฐินสามัคคี โดยมีพระครูปลัดวิชาญ ธัมมโชโต เจ้าอาวาสวัด) เจ้าอาวาสพุทธบูชาป่าโคกประสาท เป็นประธานฝ่ายบรรพชิต พร้อมพระภิกษุสงฆ์ ประกอบพิธีรับถวายผ้าพระกฐิน

ประวัติวัดพุทธบูชาป่าโคกประสาท
เดิมชื่อว่าวัดโคกปราสาทตามพื้นที่เป็นทีเนิน เป็นโคกและก็มีปราสาทหินเก่าแก่อยู่ในป่านี้จึงเรียกว่าป่าโคกปราสาท ซึ่งเป็นปราสาทเก่าแก่ตั้งแต่สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เป็นหัวเมืองหัวเมืองหนึ่งที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 จะเสด็จไปเมืองพิมายจะต้องผ่านสถานที่หัวเมืองแต่ละที่และตรงป่าโคกปราสาทก็เป็นที่ที่ 1 ที่เป็นที่ประทับเดินทางของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เมื่อเสด็จมาถึงก็มาพักอยู่ ณ.ปราสาทแห่งนี้เพื่อให้ชาวบ้านพสพนิกร บริเวณเมืองโคกปราสาทแห่งนี้ได้นำเครื่องสักการะเครื่องบรรณาการมาถวายแด่พระเจ้าชัยวรมันและปราสาทแห่งนี้สมัยดั้งเดิมเรียกว่าบ้านไฟบ้างหรือ อโรคยาศาลบ้างคือเป็นที่เมื่อพระราชาเสด็จมาถึงก็มีการบวงสรวงสถานที่ตามประเพณี


เมื่อเจ้าเมืองไปที่หัวเมืองต่างๆก็ต้องมีประเพณีสักการะสถานที่แห่งนั้นในปราสาทจะมีศิวลึงค์ซึ่งเป็นที่บูชาของพราหมณ์ฮินดูในสมัยนั้นเมื่อพระราชาได้นำน้ำนมนำถั่วงาสิ่งต่างๆได้ทำพิธีสวดถวายองค์ศิวลึงค์เพื่อบูชาเทพแล้วก็จะเทราดน้ำนมลงไปในองค์สีวลึงพร้อมถั่ว งา น้ำอบ น้ำหอม อื่นๆลง ข้างๆองค์ศิวะลึงก็จะมีรางน้ำเส้นทางน้ำไหลเมื่อบวงสรวงเสร็จก็จะเทไปในศิวะลึงค์บูชาเทพน้ำนมพืชพันธุ์ต่างๆก็จะไหลไปด้านอีกทิศ1 ชาวบ้านหรือข้าราชขุนนางต่างๆก็จะมาตักเอาน้ำนมนั้นมาดื่มมาลูบศรีษะเพื่อความเป็นสิริมงคลเชื่อว่าเป็นการกำจัดทุกข์กำจัดโศกโรคภัยต่างๆได้ ชึ่งมีพระราชาได้มาทำพิธีพร้อมกับฤาษีพราหมณ์ต่างๆที่ติดตามพระราชามาด้วย ถือเป็นศิริมงคลแก่ชาวเมือง
วัดพุทธบูชา ก่อตั้งมาประมาณปี 2537ซึ่งมีเจ้าอาวาสองค์เดิมได้มาปฏิบัติธรรมอยู่แต่ก็ยังไม่ได้พัฒนาเท่าไหร่จนกระทั่งปี 2548 พระอาจารย์วิชาญ ธรรมโชโตหรือปัจจุบันพระครูปลัดวิชาญ ธรรมโชโต เดินธุดงค์หาที่ปฏิบัติธรรมแล้วก็มาพบสถานที่ป่าแห่งนี้ก็รู้สึกชอบความสงบและความเป็นปราสาทซึ่งเป็นป่าเสื่อมโทรมห่างจากหมู่บ้านพอสมควรทั้งทางเข้าก็ลำบากเป็นถนนลูกรังแต่ก็ด้วยความสงบดูสัปปายะจึงตัดสินใจที่จะได้ปักกลดอยู่สัก 1 พรรษา ในตอนนั้นคิดอย่างนั้น
ต่อมาก็เกิดความผูกพันรู้สึกผูกพันในปราสาทผูกพันในสถานที่จึงได้ตั้งหลักปักฐานตั้งจิตอธิษฐานว่าจะอยู่พัฒนาวัดตรงนี้เป็นที่ปฏิบัติธรรมจนถึงปัจจุบัน

พระครูปลัดวิชาญ ธัมมโชโต เจ้าอาวาสวัดวัดพุทธบูชาป่าโคกปราสาท (กล่าวว่า)วัดพุทธบูชาป่าโคกปราสาท ตำบลหนองปล่อง อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์กำลังก่อสร้างอุโบสถซึ่งสร้างแล้วเสร็จประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ ยังรอเพียงการ ตีฝ่าเพดาน ประดับลวดลาย เดินสายไฟภายในอุโบสถ ปรับระดับทางเดินรอบอุโบสถ จึงขอเจริญพรบอกบุญมายังท่านเพื่อร่วมทอดกฐินสามัคคี ครั้งนี้เพื่อรวบรวมจตุปัจจัยร่วมก่อสร้างอุโบสถให้แล้วตามวัตถุประสงค์เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาฝากชื่อไว้ในพระพุทธศาสนาให้ดำรงถาวรสืบต่อไปชั่วกาลนาน ตามกำลังทรัพย์ศรัทธา
ขออานุภาพคุณพระศรีรัตนตรัยและกุศลบุญครั้งนี้ จงอำนวยอวยชัยให้แก่ผู้มีจิตศรัทธาจงประสพด้วย จตุรพิธพรชัยทั้ง ๔ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ เทอญ ฯ

ณพล (สัมภาษณ์) บริบูรณ์ รายงาน 087-614-2444