ผู้การฯเมืองคอนสั่งรอง ผู้การฯประชุมด่วนติดตามความคืบหน้าคดี ”สาวแม่เลี้ยงเดี่ยว” ถูกอิทธิพลมืดข่มขู่คุกคามเกือบ 5 เดือนนิ่งไม่ขยับ
เช้าวันนี้ (1 ธ.ค.) พล.ต.ต.เกรียงศักดิ์ นุ่นเกลี้ยง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช มอบหมายให้ พ.ต.อ.ขจิตร คงปราบรอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เรียกประชุมตั้งแต่ ผกก.สภ.เมือง นครศรีธรรมราช และ รอง.ผกก.สืบสวน และพนักงานสืบสวน เจ้าของคดีนักธุรกิจใหญ่ข่มขู่คุกคาม ตามปองร้าย น.ส.เจ สาวแม่เลี้ยงเดี่ยว 3 เรื่อง ที่ตำรวจรับแจ้งความตั้งแต่ 14 ก.ค.2568 แต่คดีไม่คืบ จึงร้องเรียนสื่อมวลชนและยุติธรรมจังหวัด จนมีการเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนและเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยาน ต่อมาพนักสอบสวนอ้างว่าได้ส่งสำนวนถึงอัยการเพื่อพิจารณาสั่งห้องผู้ต้องหาแล้ว แต่ความแตกเมื่อผู้เสียหายยังถูกตามข่มขู่คุกคามต่อเนื่อง ในขณะที่ทางยุติธรรมจังหวัดได้ส่งหนังสือลับที่สุดถึงผู้เสียหายขอยกเลิกการคุ้มครองพยาน เนื่องจากคดียังไม่มีความคืบหน้าใด และทางอัยการยังไม่ได้ส่งฟ้องผู้ต้องหาใด ๆ จนต้องร้องเรียนซ้ำเมื่อตรวจสอบพบว่าพนักงานสอบสวนยังไม่ได้เรียกผู้ต้องหามาแจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวนปากคำแต่อย่างใดและเพิ่งโทรหาผู้เสียหายเพื่อขอเบอร์โทรศัพท์ผู้ต้องหา เพื่อเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวนปากำคำตามกระบวนการ

ในขณะที่เพจพี่หลวงย้อยมาแล้ว ,เพจไพฑูรย์ อินทศิลา และทีมทนายอาสา ที่ยื่นมือมาช่วยทางคดีให้ น.ส.เจ และคอรบครัวฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายมองว่าพนักงานสอบสวนปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือละเว้นปฎิบัติหน้าที่หรือไม่ และยังรายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชาว่า ผู้เสียหาย รวมทั้ง 2 เพจข่าวและทีมทนายว่าคดีคืบหน้าและส่งสำนวนถึงอัยการเพื่อพิจารณาสั่งห้องผู้ต้องหาไปนานแล้ว ทั้ง ๆที่ยังไม่ได้ทำสำนวนใด ๆ จน พล.ต.ต.พล.ต.ต.เกรียงศักดิ์ นุ่นเกลี้ยง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช มอบหมายให้ พ.ต.อ.ขจิตร คงปราบรอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เรียก ผกก. รอง ผกก. และพนักงานสอบสวนร่วมประชุมชี้แจงความคืบหน้าของคดีที่เป็นจริง
อย่างไรก็ตามทาง ผกก.และพนักงานสอบสวนยืนยันว่าได้รวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำผู้เสียหาย พยานเรียบร้อยแล้ว และจะเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยจะเรียกผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมควบคุมตัวพร้อมสำนวนส่งมอบอัยการพิจารณาสั่งฟ้องให้ได้ภายในวันนี้ (1 ธ.ค.)

ในขณะท่า น.ส.เจ ผู้เสียหายกล่าวว่า ตนและลูกพร้อมเพื่อนที่เป็นพยานต้องอาศัยอยู่อย่างหวาดผวา เพราะมีบุคคลคนต้องสงสัยคอยตามประกบตลอดเวลลา รู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยก่อนหน้านี้มีการตามเข้าไปข่มขู่คุกคามบุตรสาวถึงในโรงเรียน จนทางยุติธรรมจังหวัดต้องเชิญตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายศึกษาธิการจังหวัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และโรงเรียนมาร่วมประชุมและเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยาน แต่ล่าสุดเพิ่งทราบว่าทางยุติธรรมส่งหนังสือมาบอกว่าต้องยุติการคุ้มครองพยานเนื่องจากผ่านมากว่า 4 เดือนคดียังไม่มีการส่งสำนวนและผู้ต้องหาไปยังอัยการเพื่อพิจารณาสั่งห้องผู้ต้องหา
“ตนโทรสอบถามทีมทนายและพี่หลวงย้อยมาแล้ว ก็ยืนยันว่าส่งฟ้องผู้ต้องหาไปยังอัยการแล้วตามคำยืนยันขจอง ผกก. สภ.เมือง แต่ในความเป็นจริงยังไม่ได้ดำเนินการอะไรเลย ไม่น่าเชื่อว่าพนักงานสอบสวนจะกล้าโกหกผู้บังคับบัญชา โกหกผู้เสียหายและทีมทนาย พนักงานสอบสวนไม่ให้ความสำคัญกับตนและลูก ๆ รวมทั้งพยานที่สุ่มเสี่ยงกับการถูกดตามปองร้ายเลย ผ่านมา 4 เดือนเศษตนและลูกสุ่มเสี่ยงที่จะโดนอุ้มหรือถูกฆ่าตาย มันไม่ยุติธรรมสำหรับประชาชนเลย “ความล่าช้าคือความ อยุติธรรม”จริง ๆ
ผู้เสียหาย กล่าวอีกว่า เมื่อวานนี้ 30 พ.ย.พนักงานสอบสวนนัดตนไปพบเพื่อขอเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม ตนรับลูก 3 คนจากโรงเรียน และไปรับพยานพร้อมลูกสาวอีก 1 คนรีบเดินทางไปโรงพัก แต่เมื่อไปถึงพบกลุ่มผู้ต้องหาและพรรคพวกอยู่เต็มโรงพัก บรรดาลูก ๆ เห็นหน้ากลุ่มผู้ต้องหาถึงกับหวาดผวากลัวสุดขีดหวีดร้องอย่างน่าเวทนาสงสาร ตนสงสัยว่าพนักงานสอบสวนมีการบอกและยัดแนะกับกลับผู้ต้องหาและพวกว่าได้นัดตนและพยานมาพบตามวัน เวลาดังกล่าวหรือไม่ เขาต้องการอะไร มุ่งหวังอะไร พนักงานสอบสวนทำแบบนี้ได้อย่างไร และวันนี้หลัง รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เรียกประชุมติดตามความคืบหน้าพนักงานสอบสวนรับปากว่าจะส่งฟ่องผู้ต้องหาให้อัยการพิจารณาสั่งห้องภายในวันนี้ เขาสามารถทำงานได้รวดเร็วถึงขนาดนี้เลยหรือใช้เวลาแค่ไม่กี่ ชม.ก็สามารถส่งฟ้องผู้ต้องหาได้ แต่ที่ผ่านมากงว่า 4 เดือนกลับไม่ทำอะไรเลย น.ส.เจ กล่าว

ไพฑูรย์ อินทศิลา /นครศรีธรรมราช
1 ธ.ค. 2568