หนุ่มประมงจากพิษณุโลกรับค่าแรง 7,000 บาทเตรียมกับบ้านโดนล้วงกระเป๋าขณะนั่งหลับใน บ.ข.ส.-กลุ่มรถสองแถวคนดียื่นมือช่วย

(7 มิ.ย.) ผ้าสื่อข่าวรายงานว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาในขระที่กลุ่มผู้ประกอบอาชีพขับรถสองแถวรับจ้างสวายหัวถนน-สนามกีฬา ในเขตเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช หรือ “กลุ่มสองแถวคนดี” นำโดยนายถจอม เด็ดดวง อายุ 55 ปี กำลังจับกลุ่มรอผู้โดยสารอยู่บริเวณคิวหน้าสนามกีฬา ได้สังเกตุเห็นชายฉกรรจ์คนหนึ่งทราบชื่อในเวลาตอมาคือนายสำรวย ดอนเมือง อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 118 หมู่ 4 ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก เดินสะพายกระเป๋าเป้ และหิ้วถุงข้าวของพะรุงพะรังมาจากทางตลาดท่าวัง ด้วยอาการอ่อนระโหยโรยแรง นายถนอม จึงเข้าไปสอบถามและเชิญนั่งพักและดื่มน้ำเย็น ๆ

นายนายสำรวย ดอนเมือง เปิดปากเล่าเรื่องราวด้วยความเศร้าสร้อยว่า ตนมาทำงานเป็นลูกเรือประมงและพักอาศัยอยู่ที่ตลาดท่าแพ ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พยายามเก็บเงินเพื่อเดินทางกลับบ้านที่ จ.พิษณุโลก จนสามารถเก็บเงินสดได้ 7,000 บาท จึงขออนุญาตนายจ้างเดินทางกลับไปหาครอบครัวที่ จ.พิษณุโลก และเดินทางมามาที่ บ.ข.ส.นครศรีธรรมราช ในระหว่างที่นั่งรอรถทัวร์เพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร และต่อรถไป จ.พิษณุโลก เกิดเงียบหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย เมื่อรู้ใกล้ถึงเวลาที่รถทัวร์โดยสารเที่ยวที่ตนจะเดินทางมาถึง จึงลุกขึ้นเพื่อไปซื้อตั๋วโดยสาร แต่พบว่ากระเป๋าสตางค์ได้หายไป โดยที่ตนไม่เหลือเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียว ความฝันที่จะเดินทางไปหาครอบยครับที่บ้ารนเกิด จ.พิษณุโลก หายวับไปทันที

“ผมเสียใจมาก ๆ รู้สึกสิ้นหวังไปไหน ทำอะไรไม่ถูกที่สำคัญรู้สึกหิวมาก ๆ จึงตัดสินใจหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นมาสะพายและหิ้วถุงสิ่งของพะรุงพะรังเดินเท้าเพื่อกลับไปยังที่พักในย่านตลาดท่าแพ ต.ปากพูน ระยะทางกว่า 10 กม. เดินผ่านย่านตลาดท่าวังใจกลางเมืองนครศรีธรรรมราชมาเรื่อย ๆ รู้สึกเหนื่อยมาก ๆ จนเดินแทบไม่ไหว จนกระทั้งเดินมาถึงหน้าสนามกีฬากลางจังหวัดนครศรีธรรมราชรวมระยะทางกว่า 6 กม.และมาพบกับกลุ่ม”รถสองแถวคนดี”ดังกล่าว แม้ผมเพิ่งจะพบเจอเรื่องแลวร้ายที่สุดในชีวิต แต่ผมก็ดีใจ สุดประทับใจในน้ำใจของพวกพี่ ๆ รถสองแถว”

นายถนอม และเพื่อนๆ กลุ่มรถสองแถวคนดี จึงลงขันช่วยเหลือคนละ 30-50 บาท ได้เงินรวม 400 บาท ก้อนจะไปซื้อข้าวมาให้นายสำรวย 1 ห่อนายสำรวย ถึงกับน้ำตาไหลพรากรีบรับข้าวมากินอย่างหิวโหยจนหมดภายในพริบตา นายถนอม และกลุ่มเพื่อนสองแถวคนดีได้มอบเงินที่เหลือเกลือบ 400 บาทให้นายสำรวย เก็บติดตัวไว้ใช้จ่าย ก่อนจะขับรถสองแถภวนำนายสำรวย ไปส่งที่บ้านพักตลาดท่าแพ ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ระยะทางอีก 5 กม.สร้างความดีใจและประทับใจให้กับนายสำรวย เป็นอย่างมาก กล่าวขอบพระคุณและยืนยันว่าจะไม่ลืมบุญคุณ จะจดจำนายถนอม และกลุ่มเพื่อนรถสองแถวคนดีตลอดไป

นายถนอม กล่าวว่า พวกเราประกอบอาชีพขับรถสองแถวรับจ้าง ในปัจจุบันมทีรายได้น้อยมาก ๆ จนแทบไม่เพียงพอกับยค่าใช้จ่ายในแต่บละวัน โดยพวกเราได้ร่วมกันตั้งกลุ่ม “รถสองแถวคนดี” คอยช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ได้รับความเดือดร้อนเท่าที่พอจะช่วยได้ ในแต่ละเคสจะบริจาคเงินคนละเล็กละน้อยช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน โดยทำมาอย่างต่อเนื่องจนได้รับการยกย่องชื่นชมจากคนในสังคมมาตลอด เราเกิดมาเป็นคนเหมือนกันแต่อาจจะมีหน้าที่การงาน รายได้ ชีวิตความเป็นอยู่ต่างแตกต่างกัน จึงต้องดูแลช่วยเหลือเกื้อกูลแบ่งปันกันเท่าที่พอจะช่วยเหลือกันได้ สังคมไทยจึงจะอยู่กันได้อย่างมีความสุข

สำหรับนายสำรวย ผู้ที่พวกเราช่วยเหลือในครั้งนี้ยืนยันว่าเขาจะพยายามเก็บเงินเพื่อเดินทางกลับไปหาครอบครัวที่ จ.พิษณุโลกให้จนไกด้ คาดว่าจะใช้เวลาอีก 2- 3 เดือนวันที่เขาเก็บเงินได้และพร้อมที่จะเดินทางผมหรือเพื่อนให้เบอร์โทรศัพท์กับเขาไว้แล้วขอให้โทรมาบอกผมหรือเพื่อนจะขับรถไปรับที่บ้านเช่าในตลาดท่าแพ ต.ปากพูน มาส่งที่สถานี บ.ข.ส.นครศรีธรรมราช และคิดว่าครั้งนี้เป็นบทเรียนที่ดีต่อไปนายสำรวย คงต้องระมัดระวังทรัพย์สินเป็นพิเศษมากกว่านี้ “สังคมมันมีทั้งคนดีและไม่ดี แต่หากเรามุ่งในการสั่งสมทำความดีผลดีจะตอบสนองในทางที่ดีไม่วันใดก็วันหนึ่งอย่างแน่นอน”.นายถนอม กล่าวย้ำในที่สุด.

ไพฑูรย์ อินทศิลา /นครศรีธรรมราช
7 มิ.ย.2568